เทพปีศาจหวนคืน 1021-1022
บทที่ 1021 ยังไม่กลับมาอีกหรือ
แปลโดย iPAT
ดวงวิญญาณของฟางหยวนบินเข้าหลอมรวมกับวิญญาณอมตะระดับเก้าที่ลึกลับ
วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกตั้งชื่อว่าทารกอมตะโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ฟางหยวนรู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาศาลราวกับเขาจมลงสู่วังน้ำวนของน้ำตกสวรรค์
หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนรู้สึกราวกับเขาอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
ความมืดนี้ไม่หนาวเย็นแต่อบอุ่น
มันราวกับเขาเป็นทารกที่อยู่ในครรภ์ของมารดา
หลังจากฟางหยวนหลอมรวมกับทารกอมตะ ท้องฟ้าก็ส่งเสียงคำรามราวกับมันกำลังโกรธแต่ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร
วิญญาณทารกอมตะเริ่มส่องแสงสีขาวออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ชมพูเข้ม และสีแดงตามลำดับ
ต่อมามันยังเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีเหลือง กระทั่งครบเจ็ดสีและเปลี่ยนเป็นสีดำในที่สุด
ภายในดวงแสงสีดำ ทารกอมตะขนาดเท่าปลายนิ้วโป้งกระตุกขึ้นเป็นจังหวะ
พลังชีวิตของมันค่อยๆเติบโตขึ้น
อุุณหภูมิในอากาศเริ่มลดลงขณะที่ดวงแสงถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง
สายฟ้าแลบลั่นรอบๆชั้นน้ำแข็งก่อนที่เปลวไฟจะลุกไหม้ขึ้น
น้ำแข็งกลายเป็นชั้นพลังปราณและเปลี่ยนรูปร่างเป็นภูตผี
หลังจากนั้นยังมีเถาวัลย์เติบโตขึ้นทำให้มันดูมีชีวิตชีวา
ผลไม้งอกออกมาและค่อยๆเน่าเสีย
การเปลี่ยนแปลงที่เหนือจินตนาการมากมายเกินขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่พวกมันต่างเป็นรากฐานของสวรรค์พิภพ
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงยังดำเนินต่อไป ทารกอมตะก็ค่อยๆเติบโตขึ้น
ทารกอมตะเริ่มมีแขนขาและแสดงรูปลักษณ์ที่ชัดเจน
ในที่สุดเปลือกนอกของมันก็แตกออก ทารกอมตะร่วงหล่นลงมา!
ทารกแสดงออกด้วยความมีชีวิตชีวาและดวงตาที่ส่องประกาย เขาเป็นเด็กอ้วนกลม ผิวขาว ใบหน้าเป็นสีชมพูกุหราบที่ดูน่ารักบอบบาง สิ่งสำคัญก็คือกลิ่นอายอมตะที่ปะทุออกมาจากร่างของเด็กน้อย
พลังงานลึกลับปกป้องเขาจากสิ่งรอบข้างขณะที่เขาค่อยๆลอยลงสู่พื้นอย่างแผ่วเบา
ระหว่างกระบวนการนี้เขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
หนึ่งขวบ สองขวบ สามขวบ…
เมื่อเท้าของเขาเหยียบลงบนพื้น เขาก็กลายป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกปีเรียบร้อยแล้ว
ผิวของเขาเป็นสีขาวอมชมพูราวกับหญิงสาว เส้นผมสีดำยาวจรดเอว
ร่างกายของเขาซูบผอมเล็กน้อยและไม่มีไขมันส่วนเกิน
ดั้งจมูกของเขาเชิดสูง ดวงตาของเขาส่องประกายแต่มันมืดมิดราวกับเหวลึก
ริมฝีปากของเขาอวบอิ่มและมีเลือดฝาดดูสุขภาพดี
เด็กหนุ่มผู้นี้แน่นอนว่าคือฟางหยวน
เขามองร่างใหม่ของตนและรู้สึกตกใจ ‘ร่างใหม่ทั้งหมด?’
สิ่งที่เทพปีศาจจิตวิญญาณและนิกายเงาสร้างขึ้นย่อมไม่ใช่ของทั่วไป
ฟางหยวนพยายามตรวจสอบเพิ่มเติม แต่สิ่งแรกที่เขารู้สึกก็คือร่างนี้เหมาะสมกับดวงวิญญาณของเขาเป็นอย่างมาก
หากเปรียบเทียบ ร่างผีดิบอมตะให้ความรู้สึกเหมือนสวมชุดที่ทำด้วยกิ่งไม้ แต่ร่างใหม่เหมือนชุดผ้าไหมที่อ่อนนุ่ม
ฟางหยวนรู้สึกราวกับตนเองเดินออกมาจากความมืดและมองเห็นท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
‘นี่คือวิญญาณทารกอมตะที่เทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามสร้างขึ้นงั้นหรือ?’
กลิ่นอายอมตะไม่ใช่ของปลอม
เขารู้สึกว่าตนเองได้รับโชคใหญ่จากการพนันในครั้งนี้
แม้เขาจะไม่รู้ว่าวิญญาณดวงนี้คือสิ่งใด แต่เมื่อเห็นเทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามผสานตัวเข้ากับมัน ฟางหยวนจึงตัดสินใจทำเช่นเดียวกัน
ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เขาเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เทพปีศาจจิตวิญญาณยังถูกขังอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน นี่เป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวน หลังจากทั้งหมดเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในสภาพที่เลวร้ายมาก
สำหรับร่างกายของอิงอู๋เซี่ย กายาแห่งความฝันไม่ได้อยู่ในการควบคุมของฟางหยวนอีกต่อไป มันปิดเปลือกตาและลอยอยู่กลางอากาศ
ฟางหยวนกล่าวเบาๆ “กลับมา”
วิญญาณจำนวนมากบินออกมาจากร่างของอิงอู๋เซี่ย
ฟางหยวนผสานดวงวิญญาณของตนกับทารกอมตะแต่วิญญาณอมตะทั้งหมดของเขายังอยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ย
ตอนนี้เมื่อฟางหยวนเรียกพวกมัน วิญญาณเหล่านั้นจึงบินกลับมาหาเขาไม่ว่าจะเป็นวิญญาณทัศนคติ วิญญาณคลี่คลายปริศนา วิญญาณเปลี่ยนวิญญาณ และอื่นๆ
“ยังมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันจำนวนหนึ่งอยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ย ข้าจะดึงพวกมันออกมาได้อย่างไร?” ฟางหยวนขมวดคิ้ว
เขาเคยใช้วิญญาณทัศนคติหลอกวิญญาณเหล่านั้นเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน แม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ แต่เจตจำนงที่อยู่ในวิญญาณเหล่านั้นก็ตอบสนองเขาแล้ว อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับไม่สามารถดึงพวกมันออกมา
“ไม่เพียงวิญญาณอมตะ ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยเองก็มีประโยชน์มากเช่นกัน! หือ?”
ฟางหยวนหันหลังกลับและมองเห็นผีดิบอมตะผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น
ริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่”
มันคือตัวเขาเอง
หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้น มันก็คืออิงอู๋เซี่ยที่อยู่ในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวน
เขาพึ่งได้รับร่างใหม่ วิญญาณในการครอบครองของเขายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับก่อนหน้า
แต่ฟางหยวนไม่กังวล เขารอให้อิงอู๋เซี่ยมาถึง
“เจ้าคือ?” อิงอู๋เซี่ยค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปหาฟางหยวนด้วยความลังเล
ฟางหยวนยืนมือไพล่หลังและแสร้งกล่าวราวกับคนใกล้ชิด “อิงอู๋เซี่ย ข้าทำสำเร็จแล้ว ดวงวิญญาณของฟางหยวนถูกทำลายไปแล้ว”
“ไม่! เจ้าไม่ใช่ร่างหลักของข้า! หากเจ้าเป็นร่างหลัก ในฐานะร่างแยก ข้าจะไม่รู้สึกถึงความเชื่อมโยงได้อย่างไร?” ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายขึ้น เขาตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวนในที่สุด
‘โอ้ ท่าไม้ตายผนึกภูตผีมีข้อบกพร่องเช่นนี้ หากข้าใช้ท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคย ข้าน่าจะสามารถหลอกเขา’ ฟางหยวนคิดและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เขาแสดงออกด้วยความผ่อนคลายและมั่นใจราวกับตนเองสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด
“เจ้าคือฟางหยวน!” อิงอู๋เซี่ยกัดฟันกล่าวด้วยความโกรธ
แต่ความโกรธของเขาเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
พวกเขาทำงานอย่างหนักมาหลายหมื่นปีก่อนจะประสบความสำเร็จ แต่ฟางหยวนกลับฉกชิงผลงานของพวกเขาไปในวินาทีสุดท้าย
อิงอู๋เซี่ยคำรามเสียงดังและพุ่งเข้าหาฟางหยวน
แต่ฟางหยวนกลับเผยรอยยิ้มราวกับแผนการของเขาประสบความสำเร็จแล้ว “อิงอู๋เซี่ย เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกงั้นหรือ? วิญญาณท่องแดนอมตะเป็นวิญญาณของข้า แล้วเจ้าสามารถกระตุ้นการทำงานของมันได้อย่างไร?”
การเคลื่อนไหวของอิงอู๋เซี่ยหยุดลงทันที
เวลานั้นเขาเต็มไปด้วยความกังวลและกระตุ้นใช้งานมันโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้
เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากฟางหยวน อิงอู๋เซียจึงรู้สึกถึงความผิดปกติ
“เจ้าสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพราะข้าให้เจ้ายืม ข้าต้องการให้เจ้ากลับมาที่นี่อย่างรวดเร็วที่สุดเพราะสมบัติส่วนใหญ่ของข้าถูกเก็บไว้ในร่างนี้” ฟางหยวนกล่าว
ตั้งแต่ฟางหยวนรู้ว่าเขากำลังจะเปลี่ยนวิญญาณกับอิงอู๋เซี่ย เขาก็วางแผนเอาไว้แล้ว
ประการแรก ฟางหยวนทิ้งเจตจำนงปลอมจำนวนหนึ่งไว้ในร่างผีดิบอมตะของเขา
นี่เหมือนช่วงเวลาในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือที่เจตจำนงปลอมของโม่เหยาแฝงตัวอยู่ในเงามืดและส่งอิทธิพลต่อความคิดของฟางหยวนอย่างลับๆ
ประการที่สอง ฟางหยวนทิ้งเจตจำนงพิเศษไว้ในวิญญาณของเขา
เจตจำนงพิเศษคือสิ่งใด?
ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เทพอมตะตะวันเดือดทิ้งเจตจำนงพิเศษเอาไว้เบื้องหลัง เขาตั้งค่าให้มันทำงานในสถานการณ์ที่กำหนด เมื่อเกิดสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง มันจะทำงานทันที
เช่นเดียวกับครั้งนี้
ฟางหยวนมองอิงอู๋เซี่ยและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยังไม่กลับมาอีกหรือ?”
“ฟิ้ว…”
วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนบินเข้าสู่อ้อมกอดของฟางหยวน
อิงอู๋เซี่ยจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ตอนนี้มีเพียงวิญญาณกาลเวลาเท่านั้นที่เขาไม่สามารถดึงออกมา
นี่คือการตั้งค่าของฟางหยวน
ตราบเท่าที่อิงอู๋เซี่ยนำร่างผีดิบอมตะของเขากลับมาที่ภูเขาอี้เทียนและวิญญาณเหล่านั้นได้ยินคำว่า ‘ยังไม่กลับมาอีกหรือ?’ วิญญาณเหล่านั้นจะบินไปหาผู้กล่าวประโยคนี้
เดิมทีวิญญาณเหล่านี้ก็เป็นของฟางหยวนอยู่แล้ว เมื่อพวกมันกลับไปหาเขา เขาจึงสามารถใช้งานพวกมันได้ทันที
ก่อนหน้าฟางหยวนไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับทารกอมตะ เขาไม่สามารถคาดเดาว่าเขาจะตื่นขึ้นมาในร่างใหม่
ฟางหยวนกังวลเพียงว่าเขาอาจไม่สามารถใช้วิญญาณของอิงอู๋เซี่ย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองในช่วงเวลาสำคัญ เขาต้องใช้วิญญาณชุดเดิม
แน่นอนว่าเจตจำนงพิเศษที่ฟางหยวนใช้ไม่ใช่เรื่องง่าย
หากเกินช่วงเวลาที่กำหนด วิญญาณเหล่านี้จะระเบิดตัวเอง
ศัตรูมักเป็นครูที่ดีที่สุด ฟางหยวนพบกับความยากลำบากจากเจตจำนงปลอมของโม่เหยาและเจตจำนงพิเศษของเทพอมตะตะวันเดือด แล้วเขาจะไม่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาได้อย่างไร?
ฟางหยวนโบกมือและส่งอิงอู๋เซี่ยลอยกลับไปอย่างง่ายดาย
“ทุกอย่างจบแล้ว” ฟางหยวนมองอิงอู๋เซี่ยในร่างผีดิบอมตะของเขาและถอนหายใจ
อิงอู๋เซี่ยรู้สึกราวกับจมอยู่ในธารน้ำแข็งที่ทำให้เขาหนาวเหน็บไปถึงแกนกระดูก!
———-
จบเล่มที่ 4
บทที่ 1022 ทั้งหมดคือเจตจำนงสวรรค์
เล่มที่ 5 พลังอำนาจของราชาปีศาจ
แปลโดย iPAT
“ทุกอย่างจบแล้ว” มองไปที่อิงอู๋เซี่ยที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า ฟางหยวนถอนหายใจ
หลังจากล่วงรู้ว่าตนเองตกลงสู่กับดัก อิงอู๋เซี่ยกลายเป็นสิ้นหวังและยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
เขารู้ว่าไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์
อย่างไรก็ตามบางสิ่งกลับเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
“บึม”
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
ร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนระเบิดตัวเอง!
พลังงานแห่งเต๋าบนร่างผีดิบอมตะกลายเป็นเชื้อเพลิงให้วิญญาณกาลเวลานำดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยออกเดินทาง
วิญญาณกาลเวลา!
ฟางหยวนตกใจมาก
‘เกิดสิ่งใดขึ้น!? วิญญาณกาลเวลาเต็มไปด้วยเจตจำนงพิเศษของข้า มันจะถูกกระตุ้นการทำงานโดยอิงอู๋เซี่ยได้อย่างไร?’
‘ไม่! เขายอมรับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ แล้วเขาจะกระตุ้นใช้งานวิญญาณกาลเวลาได้อย่างไร? เขาแสร้งทำงั้นหรือ?’
‘วิญญาณกาลเวลาเป็นวิญญาณของข้า อิงอู๋เซี่ยสามารถใช้มันได้อย่างไร?’
ฟางหยวนเต็มไปด้วยคำถาม
คำถามที่ทำให้เขางุนงง
ฟางหยวนยืนนิ่งและไม่สามารถขัดขืน
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วเกินไป
หน้าผากของเขาปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ
‘ข้าจะทำอย่างไร? ข้าควรทำอย่างไร?’
ฟางหยวนใช้วิญญาณกาลเวลาพลิกสถานการณ์มาหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับคนอื่นที่ใช้วิญญาณกาลเวลา เขาไม่รู้วิธีรับมือ
หลังจากทั้งหมดความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขายังอ่อนด้อยเกินไป
ปราศจากวิญญาณกาลเวลา เขาก็แทบไม่มีพื้นฐานบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่เลย
‘ข้าคำนวณพลาดงั้นหรือ? มีสิ่งใดอีกบ้างที่ข้ายังไม่ได้พิจารณา?’
เมื่อไม่สามารถหาคำตอบ ฟางหยวนจึงทำได้เพียงถอนหายใจ
‘ไม่มีสิ่งใดที่ข้าสามารถทำได้ ข้าทำเต็มที่แล้ว’
หากฟางหยวนไม่ได้เปลี่ยนวิญญาณตามคำแนะนำของเทพอมตะกลุ่มดาว เขาจะไม่สามารถพลิกสถานการณ์และมาถึงจุดนี้
‘เป็นไปได้หรือไม่ว่าเพราะข้าไม่ได้ทำตามความตั้งใจของเทพอมตะกลุ่มดาวเรื่องการทำลายทารกอมตะ ดังนั้นมันจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น?’
‘วิญญาณกาลเวลาที่ยังไม่ฟื้นตัวถูกใช้งานอีกครั้ง มันอาจล้มเหลวและเสียชีวิต’
‘ไม่ ไม่ถูกต้อง!’
ทันใดนั้นฟางหยวนก็นึกไปถึงใบหน้าภูตผีและดอกบัวสีแดงที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่ขนทั้งร่างของเขาจะลุกชูชันขึ้น
‘ข้าต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากเขาประสบความสำเร็จในการกำเนิดใหม่ สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร?’ ฟางหยวนคิดขณะที่สายตาเริ่มพร่าเลือน
มันไม่ใช่สายตาของเขาที่มีปัญหา
แต่เป็นโลกทั้งใบที่เริ่มบิดเบี้ยวภายใต้พลังอำนาจของกาลเวลา
การกำเนิดใหม่ของอิงอู๋เซี่ยจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
อิงอู๋เซี่ยตกตะลึง ‘นี่คือสายธารแห่งกาลเวลางั้นหรือ? วิญญาณกาลเวลาทำงานด้วยความตั้งใจของมันเองได้อย่างไร? เจตนำจงของข้าเข้าแทนที่เจตจำนงของฟางหยวนได้อย่างไร?’
เขาเต็มไปด้วยคำถาม
แม้เขาจะมาถึงสายธารแห่งกาลเวลา แต่เขากลับไม่รู้สิ่งใดเลย
คลื่นน้ำซัดสาดเข้ามาอย่างไร้ปรานี
อิงอู๋เซี่ยกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก หากจั๊กจั่นไม้แห่งกาลเวลาที่อ่อนแอมากเผชิญหน้ากับคลื่นเหล่านี้ มันจะรอดชีวิตไปได้อย่างไร
“เห้อ…เป็นเช่นนี้…”
เสียงถอนหายใจดังขึ้น
ใบหน้าภูตผีลอยขึ้นมาก่อนที่มันจะอ้าปากพ่นดอกบัวสีแดงออกมาขัดขวางคลื่นน้ำที่กำลังจะปะทะจั๊กจั่นไม้แห่งกาลเวลา
หลังจากนั้นมันจึงถูกดึงดูดเข้าไปยังใจกลางของดอกบัวสีแดง
ในสถานที่แห่งนี้ เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณนั่งไขว้ขาลอยอยู่กลางอากาศและเผยรอยยิ้มขมขื่น
“ร่างหลักของเราทิ้งเจ้าไว้ที่นี่งั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยเร่งสอบถามด้วยความยินดี
เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณทั้งส่ายศีรษะและพยักหน้า “เจ้าถือได้ว่าเป็นดวงวิญญาณแยกของร่างหลัก เจ้าควรจะจำข้าได้ แต่โชคไม่ดี เพราะกายาแห่งความฝัน เจ้าจึงสูญเสียความทรงจำทั้งหมด”
“เห้อ…ไม่มีสิ่งใดที่ข้าสามารถทำได้ เจ้าคิดว่าข้าเต็มใจงั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยรู้สึกกังวล “มันเกิดสิ่งใดขึ้น? ข้าตกลงสู่กับดักของฟางหยวน ข้าคิดว่าจะตายแล้ว แต่เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่? ไม่ใช่ว่าวิญญาณกาลเวลาไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลานี้งั้นหรือ?”
เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณถอนหายใจ “ข้าเฝ้ามองสถานการณ์ทั้งหมดจากที่นี่และพึ่งตระหนักถึงบางสิ่ง เจ้าสามารถมาที่นี่เพราะความช่วยเหลือจากเจตจำนงสวรรค์ วิญญาณกาลเวลาถูกกระตุ้นการทำงานโดยเจตจำนงสวรรค์”
“กระไรนะ!?” อิงอู๋เซี่ยตกใจจนแทบล้ม
นี่เป็นเรื่องเหนือจินตนาการของเขาไปไกลมาก
หากไม่ใช่เพราะผู้ที่อยู่ด้านหน้าเขาคือเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ อิงอู๋เซี่ยจะไม่เชื่อเรื่องนี้
“ไม่ใช่ว่าเจตจำนงสวรรค์เป็นศัตรูของพวกเรางั้นหรือ? เหตุใดมันจึงหันมาช่วยพวกเราอย่างกะทันหันเช่นนี้?” อิงอู๋เซี่ยถาม
“ความทรงจำของเจ้าสูญหายไปหมดแล้วจริงๆ เจตจำนงสวรรค์ไม่เคยสร้างความยากลำบากให้กับพวกเราเพราะความไม่ชอบ เจตจำนงสวรรค์ไม่เคยช่วยเหลือพวกเราเพราะความสงสาร สิ่งที่สวรรค์ทำมีเพียงการนำส่วนเกินออกไปขณะเดียวกันก็เติมเต็มส่วนที่ขาด ด้วยเหตุนี้ธรรมชาติจึงสามารถรักษาสมดุล สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีศัตรูโดยธรรมชาติ กระทั่งผู้อมตะระดับเก้าก็มีอายุขัยที่จำกัด”
เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณหยุดก่อนกล่าวต่อ “วิถีของมนุษย์แตกต่างจากวิถีของสวรรค์อย่างสิ้นเชิง มนุษย์ต้องการผลประโยชน์และสร้างส่วนเกินอย่างไร้ที่สิ้นสุด ผู้เชี่ยวชาญต้องการความก้าวหน้ามากขึ้น คนรวยต้องการรวยยิ่งขึ้น สาวงามก็ต้องการความงามที่เพิ่มขึ้น บุคคลที่มีอายุยืนยาวก็ต้องการชีวิตนิรันดร์ ความปารถนาของมนุษย์ไม่มีขอบเขต พวกเขาไม่เคยพอใจซึ่งแตกต่างจากสวรรค์”
“ข้าเริ่มเข้าใจแล้วว่าเจตจำนงสวรรค์ช่วยข้าเพราะข้าล้มเหลว ฟางหยวนกลายเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ หากเขาถูกปล่อยทิ้งไว้ มันอาจทำลายสมดุลของสวรรค์พิภพ ดังนั้นเจตจำนงสวรรค์จึงเปลี่ยนเป้าหมายและต้องการใช้ข้าเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของมัน แต่เจตจำนงสวรรค์กระตุ้นการทำงานของวิญญาณกาลเวลาได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าวิญญาณดวงนี้เป็นของฟางหยวนงั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยยังงงงวยกับเรื่องนี้
เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวต่อ “เห้ย…นี่เป็นการกระทำของเจตจำนงสวรรค์ ข้าพึ่งตระหนักเมื่อไม่นานมานี้ ฟางหยวนได้รับวิญญาณกาลเวลาเพราะเจตจำนงสวรรค์ สวรรค์เลือกเขาเป็นเครื่องมือและให้เขากำเนิดใหม่เพื่อทำลายแผนการของพวกเรา!”
“ข้าพึ่งคิดถึงข้อมูลที่ไป่หนิงปิงให้กับพวกเรา จุดเริ่มต้นของฟางหยวนคือภูเขาชิงเหมา แม้พรสวรรค์ของเขาจะไม่ดี แต่เส้นทางของเขากลับราบรื่นและกระทั่งสามารถก้าวกระโดด เขาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเสมอไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์บนภูเขาชิงเหมา แดนศักดิ์สิทธิ์สามกษัตริย์ วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง ภูเขาอี้เทียน ตลอดเส้นทางชัดเจนว่าเขาไม่ได้ใช้วิญญาณกาลเวลาเพียงครั้งเดียว”
“วิญญาณกาลเวลาเป็นวิญญาณอมตะระดับหกเท่านั้น มันมีโอกาสล้มเหลวสูง แต่เขากลับประสบความสำเร็จทุกครั้ง ก่อนที่ข้าจะช่วยเขา เขาไม่เคยล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว! เจตจำนงสวรรค์แอบช่วยเขาอย่างลับๆและอนุญาตให้เขายกระดับจากขอบเขตมนุษย์มาสู่ขอบเขตอมตะในช่วงเวลาสั้นๆ เขากระทั่งได้รับเลือกจากร่างหลักของพวกเราเพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อต้านสวรรค์”
อิงอู๋เซี่ยประหลาดใจมาก “เดี๋ยว! เจ้าต้องการกล่าวว่า…”
เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณพยักหน้า “ถูกต้อง ครั้งนี้ร่างหลักของเราล้มเหลวเนื่องจากฟางหยวน ร่างหลักของเราต้องการใช้ฟางหยวนเป็นเครื่องมือ แต่ในความเป็นจริงฟางหยวนเป็นเครื่องมือของเจตจำนงสวรรค์ตั้งแต่แรก”
“ไม่ว่าฟางหยวนจะเกิดใหม่กี่ครั้ง ก่อนหน้านี้ร่างหลักของเราก็เคยประสบความสำเร็จ ไม่เพียงพวกเราจะได้รับทารกอมตะ แต่พวกเราอาจบรรลุถึงระดับที่สามารถคุกคามสวรรค์ ด้วยเหตุนี้เจตจำนงสวรรค์จึงไม่ตระหนี่ที่จะช่วยเหลือฟางหยวนและปล่อยให้เขากำเนิดใหม่เพื่อทำลายแผนการของพวกเรา”
“ฟางหยวนเป็นตัวตนที่น่าสนใจ เขาเป็นปีศาจต่างโลก เขามีคุณสมบัติที่จะกำเนิดใหม่และเปลี่ยนอดีต หากเป็นคนทั่วไป แม้พวกเขาจะยิ่งใหญ่เพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากชะตากรรม อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่ปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงได้รับอิทธิพลจากเจตจำนงสวรรค์ เขาคิดว่าเขาหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาได้ด้วยตนเอง แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ไพ่ตายใบนี้ของเขาเกิดจากความต้องการของเจตจำนงสวรรค์ ตั้งแต่เริ่มต้นเขาถูกหลอกโดยเจตจำนงสวรรค์และไม่เคยตระหนักถึงมัน ในความเป็นจริงข้าต้องการส่งมอบความทรงจำและความรู้ทั้งหมดของข้าให้กับเจ้า แต่น่าเสียดายที่ดวงวิญญาณของเจ้ามีขีดจำกัด”
อิงอู๋เซี่ยอ้าปากค้างและไม่รู้ว่าควรกล่าวสิ่งใด
คลื่นน้ำพุ่งเข้าปะทะดอกบัวสีแดงอย่างไม่หยุดยั้ง
กรีบดอกค่อยๆแตกออกและกระจัดกระจายไปตามกระแสน้ำ
“เจ้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว” เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณถอนหายใจ
“ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลก เจตจำนงสวรรค์พยายามบังคับเขา แต่สุดท้ายเขาก็ทำตามความปารถนาในใจของตนเองและเลือกยึดครองทารกอมตะแทนการทำลายมัน”
“เขากลายเป็นตัวหมากที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถอดทนต่อการดำรงอยู่เช่นนี้ ดังนั้นมันจึงกระตุ้นการทำงานของวิญญาณกาลเวลาเพื่อให้เจ้ากลับไปจัดการฟางหยวน”
“แต่เจตจำนงสวรรค์จะไม่ปล่อยให้เจ้าครอบครองทารกอมตะเช่นกัน หลังจากเจ้ากำเนิดใหม่ เจ้าจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้โดยง่าย อย่าใจร้อนและทำลายโอกาสสุดท้ายนี้”
อิงอู๋เซี่ยถาม “แล้วข้าควรทำอย่างไร?”
“ตอนนี้กองกำลังพันธมิตรผีดิบถูกทำลายไปแล้ว นิกายเงาก็เช่นกัน แม้ร่างหลักของเราจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย แต่ผู้อมตะนิกายเงาได้ทิ้งบางสิ่งเอาไว้เบื้องหลัง เจ้าจงใช้สิ่งเหล่านั้นก่อตั้งนิกายเงาขึ้นมาใหม่”
“ชะตากรรมเป็นเรื่องยากที่จะต่อต้าน แต่โชคสามารถใช้ประโยชน์ได้ เจ้าสามารถใช้ประโยชน์จากถ้ำสวรรค์นิรันดรของภาคเหนือ สำหรับภาคกลาง ยังมีกองกำลังที่ซ่อนอยู่และไม่ตกเป็นเป้าหมายของนิกายโบราณทั้งสิบ…”
“ใช้นิกายเงาที่ก่อตั้งใหม่ช่วยร่างหลักของเรา เจ้าต้องถ่ายทอดข้อมูลเหล่านี้ให้กับร่างหลัก เพราะเมื่อเจ้ากำเนิดใหม่ ทั้งข้าและร่างหลักจะไม่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้น ในเวลานั้นเจ้าจะเป็นคนเดียวที่รู้ทุกสิ่ง!”
“จำไว้ ต้นไม้สูงจะเป็นสิ่งแรกที่เผชิญหน้ากับการทำลายล้าง ดินที่อยู่ใกล้น้ำมากที่สุดจะเป็นสิ่งแรกที่ถูกกระแสน้ำพัดพาไป การปกปิดตัวตนของพวกเราจากเจตจำนงสวรรค์เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ตั้งแต่พวกเราเคยประสบความสำเร็จมาก่อน พวกเราก็สามารถประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่สอง! ดูแลตัวเองด้วย!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น