เทพปีศาจหวนคืน 1019-1020
บทที่ 1019 มันก็คือการเปลี่ยนวิญญาณ
แปลโดย iPAT
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้
หอคอยดวงตาสวรรค์ลอยอยู่เหนือศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณในรูปแบบภูตผี
อีกด้านหนึ่ง แขนหลายร้อยข้างของเทพปีศาจจิตวิญญาณเริ่มแห้งเหี่ยวขณะที่ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาที่ได้รับการสนับสนุนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เมฆสีดำที่กระจายตัวอยู่รอบๆลอยเข้ามารวมกลุ่มกันและมีแสงหลากหลายสีสันส่องประกายออกมาจากจุดศูนย์กลาง
เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าวังสวรรค์เต็มไปด้วยความกังวลและเร่งออกคำสั่ง “ตัดแขนเหล่านั้น!”
หอคอยดวงตาสวรรค์พุ่งไปด้วยความเร็วสูงก่อนจะตัดแขนของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่เชื่อมต่อกับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาออก
“อิงอู๋เซี่ย ไปจัดการผู้อมตะวังสวรรค์!” โป้ชิงตะโกนเรียก
มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับโป้ชิงที่จะจัดการกลุ่มของฟางหยวน
แต่เหตุการณ์ต่างๆทำให้เขาต้องหยุดชะงักตลอดเวลา
อิงอู๋เซี่ยกัดฟันแน่น เขาไม่ต้องการจากไปในเวลานี้ “ขอเวลาให้ข้าส่งฟางหยวนเข้านอนสักครู่!”
หลังกล่าวจบคำ อิงอู๋เซี่ยกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดนำวิญญาณสู่ความฝันทันที
ฟางหยวนไม่สามารถหลบและถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน
บนเกาะกลางทะเลสาบ เสียงพิณดังขึ้น
ฟางหยวนพบเทพอมตะกลุ่มดาวอีกครั้ง
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาแต่อาณาจักรแห่งความฝันกลับมั่นคงและเกิดระลอกคลื่นโปร่งใสกระจายออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากทั้งหมดท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับหกขณะที่ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด
มันมีความแตกต่างมากเกินไป
หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
เทพอมตะกลุ่มดาวเผยรอยยิ้มให้กับฟางหยวนและร้องเพลงให้เขาฟัง
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น เขารู้ว่าเขาแพ้แล้ว
บทเพลงลึกลับของเทพอมตะกลุ่มดาวดังเข้าหูของเขาอีกครั้ง
“บทเพลงที่ล้มเหลวและวีรบุรุษที่สิ้นหวัง ความยากลำบากในการต่อต้านโชคชะตา”
“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีตสร้างเสียงครวญครางไปทั่วน้ำตกสวรรค์”
“อนิจจา…”
“ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนำวิญญาณสู่ความฝัน แล้วผู้ใดจะสามารถพักผ่อนอย่างสงบ?”
“ร่างกายและจิตใจอาจเปลี่ยนผัน แต่เจตจำนงสวรรค์ยังยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขต”
คลื่นข้อมูลปริมาณมหาศาลพุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน
ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น
‘ร่างกายและจิตใจอาจเปลี่ยนผัน แต่เจตจำนงสวรรค์ยังยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขต’ ตอนนี้เขาเข้าใจประโยคสุดท้ายของบทเพลงลึกลับแล้ว
มันกลายเป็นว่าวิญญาณอมตะระดับเจ็ดของโป้ชิงที่เขาสามารถปรับแต่งก็คือวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณ!
ย้อนกลับไป โม่เหยาใช้วิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณในช่วงเวลาสำคัญเพราะนางเกรงว่าโป้ชิงจะล้มเหลวในภัยพิบัติ นั่นเป็นเหตุให้ดวงวิญญาณของพวกเขาสลับกัน
โป้ชิงต้องการใช้ประโยชน์จากโม่เหยาเพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติ แต่เขาเกรงว่าภัยพิบัติจะส่งผลกระทบต่อดวงวิญญาณของเขา ดังนั้นเขาจึงมอบวิญญาณอมตะดวงนี้ให้กับโม่เหยา
ด้วยเหตุนี้วิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณจึงเต็มไปด้วยเจตจำนงของโม่เหยา
หลังจากฟางหยวนใช้แสงแห่งปัญญาและเจตจำนงของโม่เหยาเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณ เขาจึงสามารถปรับแต่งมันได้ในที่สุด
สำหรับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบดวงอื่น พวกมันเต็มไปด้วยเจตจำนงของโป้ชิง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่ฟางหยวนจะปรับแต่งในระยะเวลาสั้นๆ
ตามคำใบ้ในประโยคสุดท้ายของบทเพลงลึกลับ มันเป็นไปไม่ได้ที่ฟางหยวนจะใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเพื่อหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน เขาต้องใช้วิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณเพื่อสลับดวงวิญญาณกับอิงอู๋เซี่ยเท่านั้น!
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย
ข้อมูลลึกลับยังบอกวิธีสร้างท่าไม้ตายอมตะที่ไม่เพียงแค่ต้องใช้วิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณเป็นแกนกลาง แต่มันยังใช้วิญญาณวิญญาณทัศนคติ วิญญาณคลี่คลายปริศนา รวมถึงวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและความฝันอีกมากมาย
ฟางหยวนลังเลเล็กน้อยแต่ก็ตัดสินใจทำตามข้อมูลที่ได้รับ!
สิ่งสำคัญก็คือเขาไม่มีทางเลือก
ฟางหยวนอยู่ในจุดที่หมดสิ้นหนทางขณะที่เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นศัตรูที่เขาไม่สามารถต่อต้าน
อย่างไรก็ตามหากทำตามคำแนะนำจากข้อมูลลึกลับ เขาจะมีโอกาสได้รับชัยชนะ
ดังนั้นเขาจึงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ
และเขาก็ประสบความสำเร็จ
ดวงวิญญาณของฟางหยวนกับอิงอู๋เซี่ยสลับกันอย่างลับๆ
เดิมทีดวงวิญญาณของฟางหยวนถูกส่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน
หลังจากเปลี่ยนวิญญาณ ดวงวิญญาณของฟางหยวนเข้าไปอยู่ในกายาแห่งความฝันของอิงอู๋เซี่ย ขณะที่ดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยเข้าไปอยู่ในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนและแน่นอนว่าเขาถูกขังอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน
ฟางหยวนตกตะลึงไปชั่วขณะ
แต่หลังจากเห็นร่างกายของตนเอง เขาคิดอย่างรวดเร็วก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า เหตุใดครั้งนี้ไม่หลบหนีออกมาอีก?”
“ฟางหยวน!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันตะโกนเรียก
แต่ฟางหยวนยังหลับสนิทและไม่ตื่นขึ้น
โป้ชิงเตรียมตัวสังหารไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน
เห็นเหตุการณ์นี้หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก
เขาเป็นพันธมิตรกับไท่เป่ยหยุนเฉินและไห่ลั่วหลัน หากเขาทิ้งคนทั้งสอง เขาอาจได้รับผลกระทบจากข้อตกลงพันธมิตร แต่หากเขาช่วยคนทั้งสอง มันอาจดึงดูดความสงสัย ตัวตนที่แท้จริงของเขาอาจถูกเปิดเผย
แต่ในไม่ช้าฟางหยวนก็ตระหนักถึงบางสิ่ง
‘ข้าคิดมากเกินไป ข้าทิ้งวิญญาณอมตะทั้งหมดไว้ในร่างเดิม ข้าไม่มีทางหยุดโป้ชิง แม้อิงอู๋เซี่ยจะมีวิญญาณอมตะจำนวนมาก แต่วิญญาณเหล่านี้ใช้ปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน ข้าจะสามารถเรียนรู้การใช้งานพวกมันได้ในระยะเวลาสั้นๆงั้นหรือ?’
ดังนั้นฟางหยวนจึงทำได้เพียงเฝ้ามอง
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
พื้นดินแยกออกและสูบร่างของพวกเขาลงไป
สิ่งนี้กักขังและจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกเขา
มันก็คือภัยพิบัติใหญ่คุกปฐพี
โป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่านอกจากหมื่นภัยพิบัติที่กำลังโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณยังมีภัยพิบัติใหญ่ซุ่มโจมตีพวกเขาอยู่ด้วย
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือไท่เป่ยหยุนเฉิง ไห่ลั่วหลัน และร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้
พวกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ นอกจากนั้นเขตต้องห้ามที่เกิดจากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายายังถูกยกเลิก
ดังนั้นไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันจึงสามารถนำร่างของฟางหยวนหลบหนี
ดวงตาของโป้ชิงเต็มไปด้วยเจตนาสังหารแต่เขาก็ทำได้เพียงมองดูพวกเขาล่าถอยและหายไปจากมุมมองสายตาเท่านั้น
“ฮืม ฟางหยวนสามารถหลบหนีในครั้งนี้ แต่เขาจะสามารถหลบหนีได้ตลอดไปงั้นหรือ? ปีศาจต่างโลก เจ้าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการต่อต้านสวรรค์ พวกเราจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ สำหรับไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน แม้พวกเขาจะไม่ใช่ปีศาจต่างโลก แต่ทั้งสองก็ได้รับผลกระทบจากฟางหยวนและสามารถหลบหนีจากชะตากรรม แม้เราจะไม่จัดการพวกเขา วังสวรรค์ก็ต้องกำจัดพวกเขาในที่สุด” ผีดิบอมตะโป้ชิงกล่าวอย่างเย็นชา
ฟางหยวนได้ยินและคิดอย่างรวดเร็ว ‘ดูเหมือนปีศาจต่างโลกจะมีประโยชน์ต่อนิกายเงา ไม่แปลกใจเลยที่อิงอู๋เซี่ยต้องการจับข้าและไม่ฆ่าข้า แต่เหตุใดภัยพิบัติใหญ่คุกปฐพีไม่ส่งผลกระทบต่อไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน? เจตจำนงสวรรค์!…ลืมมันไปก่อน สิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้คือทำความคุ้นเคยกับวิญญาณอมตะของอิงอู๋เซี่ย หากข้าล้มเหลวในการใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันในอนาคต ตัวตนของข้าอาจถูกเปิดเผย’
ฟางหยวนมองดูและตกใจมาก เขาพบว่านอกจากวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝัน เขายังมีวิญญาณเปลี่ยนวิญญาณ วิญญาณทัศนคติ วิญญาณคลี่คลายปริศนา และวิญญาณระดับมนุษย์อีกมากมายที่เขาใช้ในการสลับวิญญาณ
ยังมีประโยชน์อีกประการของท่าไม้ตายอมตะลึกลับที่ฟางหยวนได้รับ นั่นก็คือฟางหยวนสามารถใช้วิญญาณของอิงอู๋เซี่ย!
‘ดูเหมือนวิญญาณทัศนคติจะมีบทบาทสำคัญ มันทำให้ข้าสามารถหลอกเจตจำนงของอิงอู๋เซี่ย นี่คล้ายกับที่ข้าใช้เจตจำนงของโม่เหยาล่อลวงวิญญาณจากร่างผีดิบอมตะของโป้ชิง’
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางหยวนก็มองไปที่ผีดิบอมตะโป้ชิงอีกครั้ง
หากผีดิบอมตะโป้ชิงรู้ว่าอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนเป็นคนอื่นไปแล้วและยังเปลี่ยนเป็นคนที่ปล้นชิงวิญญาณอมตะของเขา ฟางหยวนอาจถูกโจมตีทันทีโดยไม่มีเวลากล่าวสิ่งใด
สถานการณ์อันตรายมาก
แม้ฟางหยวนจะสามารถหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน แต่สถานการณ์ของเขายังเปราะบางกว่าก่อนหน้า
หากเขาถูกค้นพบ เขาจะสูญสิ้นความหวังทั้งหมด
มันไม่ต่างจากการไต่เชือกข้ามหน้าผาที่พร้อมจะร่วงหล่นลงไปเมื่อใดก็ได้
ฟางหยวนรวบรวมความคิดและเริ่มดิ้นรนอย่างหนัก
ผลที่ตามมาคือร่างกายของเขาจมลงไปเรื่อยๆ
เขากรีดร้องราวกับคนไร้สติ
แต่ภายในเขากลับดีใจ ‘ภับพิบัติใหญ่ครั้งนี้มาในเวลาที่เหมาะสม ข้าติดอยู่ที่นี่และไม่สามารถใช้ความคิด ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายในเวลานี้ มันเปิดโอกาสให้ข้าทำความคุ้นเคยกับวิญญาณของอิงอู๋เซี่ย!’
“หยุดดิ้นรน หยุดคิด มันจะทำให้สถานการณ์ของเราเลวร้ายลง” โป้ชิงที่อยู่ด้านข้างกล่าวอย่างสงบ
ฟางหยวนสังเกตและพบว่าผีดิบอมตะโป้ชิงไม่สงสัยในตัวตนของเขา นี่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เขาถอนหายใจและมองไปที่เทพปีศาจจิตวิญญาณ “พวกเราทำได้เพียงหวังว่าร่างหลักจะช่วยเหลือพวกเรา”
อย่างไรก็ตามขาของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็จมลงไปใต้ดินเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นขาซ้ายของเขายังถูกเย็บติดกับพื้นดินอีกด้วย
หลังจากไม่นานหมื่นภัยพิบัติความทรงจำสีเทาก็ปรากฏขึ้น
กลุ่มเมฆสีเทาเคลื่อนที่ลงมาอย่างช้าๆ
แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ขยับเขยื้อน เขายืนนิ่งราวกับภูเขาที่เงียบสงบ
“ร่างหลักของเราถูกโจมตีงั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยตะโกนด้วยความกังวล “นี่เป็นโอกาสดี เหตุใดไม่ตอบโต้?”
ฟางหยวนดีใจที่เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกหยุดการเคลื่อนไหว แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็รู้สึกไม่สบายใจหากต้องเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติความทรงจำสีเทา
ภัยพิบัติใหญ่ยังไม่จบ หากหมื่นภัยพิบัติเกิดขึ้น แล้วเขาจะอยู่รอดได้อย่างไร?
บทที่ 1020 ผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
แปลโดย iPAT
“หมื่นภัยพิบัติมาถึงแล้ว!” อิงอู๋เซี่ยกัดฟันกล่าวเมื่อเห็นกลุ่มเมฆสีเทาเคลื่อนที่ลงมาอย่างช้าๆ
โป้ชิงแสดงออกด้วยความเคร่งเครียด
ภัยพิบัติใหญ่คุกปฐพีทำให้พวกเขากลายเป็นไร้พลังอำนาจ เมื่อหมื่นภัยพิบัติมาถึง มันจะเป็นเวลาตายของพวกเขาหรือไม่?
เมฆสีเทาเคลื่อนตัวลงมาแต่ไม่ได้ทำร้ายพวกเขา
“เกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดหมื่นภัยพิบัติไม่เป็นอันตราย?” อิงอู๋เซี่ยรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าไม่เกิดสิ่งใดขึ้น
โป้ชิงไม่ตอบ
ผู้อมตะวังสวรรค์ตระหนักถึงภับพิบัตินี้แต่ดวงวิญญาณของฟางหยวนกับโม่เหยาไม่รู้
อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ตระหนักรู้ได้ด้วยตนเอง
ร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีเทาขณะที่ภาพความทรงจำของเขาถูกเปิดเผยออกมา
ประสบการณ์เหล่านั้นล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันเป็นทางเลือกที่จะตัดสินอนาคตของเขา
ในเวลาเดียวกัน ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันก็นำร่างของฟางหยวนหลบหนีออกจากสนามรบ
ไห่ลั่วหลันมองเมฆสีเทาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจากไป
ในร่างของฟางหยวน ดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันและกำลังเผชิญหน้ากับเทพอมตะกลุ่มดาว
เขากัดฟันตะโกนอย่างบ้าคลั่งและพุ่งเข้าไปหานาง
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถโจมตีนาง เนื่องจากที่นี่เป็นอาณาจักรแห่งความฝัน ดังนั้นระยะทางที่ดูเหมือนใกล้กลับไม่ได้ใกล้อย่างที่คิด
เทพอมตะกลุ่มดาวดีดพิณแต่ไม่ได้ร้องเพลง
อิงอู๋เซี่ยเต็มไปด้วยความกังวลขณะที่เทพอมตะกลุ่มดาวสงบมาก
“ปล่อยข้าออกไป! เจตจำนงสวรรค์! ข้าขอสาปแช่งเจ้า!” อิงอู๋เซี่ยชี้นิ้วไปที่เทพอมตะกลุ่มดาวและตะโกน
แต่การแสดงออกของเทพอมตะกลุ่มดาวยังไม่เปลี่ยนแปลง
อิงอู๋เซี่ยพยายามสงบจิตใจลง “อย่ากังวล ข้าต้องสงบสติอารมณ์ ข้ารู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับท่าไม้ตายนำวิญญาณสู่ความฝัน อาณาจักรแห่งความฝันนี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นในโลกแห่งความจริง ในไม่ช้ามันจะหายไป มันไม่สามารถกักขังข้าไว้ตลอดกาล นอกจากนี้วิญญาณของฟางหยวนยังสามารถช่วยข้า เมื่อข้าตื่น ข้าจะกลับไปเปิดเผยตัวตนของเขา ตอนนี้ข้าทำได้เพียงหวังว่าเมื่อข้าตื่น ภูเขาอี้เทียนจะอยู่ไม่ไกลเกินไป”
แต่ความปรารถนาของอิงอู๋เซี่ยไม่ได้รับการตอบสนอง
ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันต่อสู้กับผู้อมตะภาคใต้และไม่มีเวลาปลุกฟางหยวน นอกจากนั้นพวกเขายังเคลื่อนที่ออกห่างจากภูเขาอี้เทียนมากขึ้นเรื่อยๆ
อิงอู๋เซี่ยกับโป้ชิงถูกขังอยู่ใต้ดิน
เมฆสีเทาแสดงภาพความทรงจำของโป้ชิงออกมา
แน่นอนว่าภาพเหล่านี้เป็นความทรงจำของโม่เหยา ในฐานะมนุษย์กลายพันธุ์ นางต้องเผชิญหน้ากับการหักหลังและความยากลำบากมากมาย
“ฮืม!” ผีดิบอมตะโป้ชิงก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน
เผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในอดีต โม่เหยาแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว
“แปลก เหตุใดเจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากเมฆสีเทาเหล่านี้?” โป้ชิงมองอิงอู๋เซี่ยที่อยู่ด้านข้าง
ฟางหยวนคิด ‘ข้าก็อยากรู้เช่นกัน’
ตามตรรกะ ภัยพิบัติความทรงจำสีเทาส่งผลกระทบต่อดวงวิญญาณของโม่เหยาที่อยู่ในร่างของผีดิบอมตะโป้ชิง ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อดวงวิญญาณของฟางหยวนที่อยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ย
แต่ด้วยเหตุผลบางประการ มันกลับไม่เกิดขึ้น
เห็นได้ชัดว่าภัยพิบัตินี้จงใจปล่อยฟางหยวนไป
‘อย่าบอกข้าว่านี่เป็นความต้องการของเจตจำนงสวรรค์ ก่อนหน้านี้ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติคุกปฐพีและสามารถนำร่างของข้าจากไป นี่เป็นการจัดการของเจตจำนงสวรรค์ด้วยหรือไม่?’
ฟางหยวนพยายามคาดเดา แต่ยิ่งคิด เขาก็ยิ่งขนลุก มีเรื่องราวน่ากลัวมากมายเกิดขึ้นในใจเขา
“ข้าไม่รู้” อิงอู๋เซี่ยมองเมฆสีเทาและส่ายศีรษะ “แต่เรื่องของเจ้าน่าสนใจจริงๆ”
โป้ชิงเย้ยหยัน “ดูเหมือนเพราะเจ้าพึ่งถือกำเนิดได้เพียงสิบแปดชั่วโมง ดังนั้นเจ้าจึงไม่มีเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต”
ดวงวิญญาณของโม่เหยาในร่างของผีดิบอมตะโป้ชิงไม่ได้สงสัยในตัวตนของฟางหยวน ความสนใจของนางอยู่ที่เทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น
เมฆสีเทาแสดงฉากเหตุการณ์ที่เทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับมรดกบนเส้นทางอาหาร
เขาทำให้ฟางหยวนตกตะลึง
ผู้อมตะวังสวรรค์ที่เห็นฉากเหตุการณ์นี้ยังหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เป็นเพียงเวลานี้ที่หมื่นภัยพิบัติอากาศสดใสปรากฏขึ้น
ฝูงนกบินลงมาโจมตีร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณและทำให้การแสดงออกของฟางหยวนกับโม่เหยาเปลี่ยนไป
ภาพความทรงจำของเทพปีศาจจิตวิญญาณยังปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ เทพปีศาจปล้นสวรรค์ วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง ดอกบัวสีแดงในสายธารแห่งกาลเวลา และอื่นๆ
‘ปรากฏว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณรู้ที่ตั้งของเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว’
‘เทพปีศาจปล้นสวรรค์ แม้เขาจะเป็นปีศาจต่างโลก แต่เขาไม่ได้มาจากโลกมนุษย์ใบเดียวกับข้า’
‘วิญญาณอายุยืน…ดูเหมือนเจตจำนงสวรรค์จะควบคุมการถือกำเนิดของพวกมันเพื่อหยุดยั้งเทพอมตะหรือเทพปีศาจ’
‘ดอกบัวสีแดง! ใบหน้าภูตผี! เมื่อข้าล้มเหลวในการย้อนเวลา มันเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ช่วยข้าไว้ ข้าเข้าใจแล้ว ในชีวิตก่อนหน้าค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกทำลาย เทพปีศาจจิตวิญญาณล้มเหลว ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากข้าเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง!’
‘กระไรนะ!? มรดกที่แท้จริงของมนุษย์คนแรก!’
ถัดไป ฟางหยวนเห็นเทพปีศาจจิตวิญญาณใช้วิธีกลืนกินดวงวิญญาณก่อนจะส่งร่างแยกทั้งเจ็ดมายังโลกของสิ่งมีชีวิต
จากนั้น เขายังเข้าใจต้นกำเนิดของวิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาและความสัมพันธ์ระหว่างโม่เหยากับโป้ชิง
‘ดวงวิญญาณที่หลับไหลอยู่ในดวงแสงสีทองคือหยางเมิ้งงั้นหรือ? มันคือสิ่งที่ถือกำเนิดจากดวงตาข้างขวาของมนุษย์คนแรกในตำนาน!?’
‘โป้ชิงคือสีฟ้า! แท้จริงแล้วสีม่วงก็คืออาจารย์ของไท่เป่ยหยุนเฉิง ราชันภูเขาม่วงที่ข้าตั้งชื่อให้!?’
‘ความจริงเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่างโม่เหยากับโป้ชิงเป็นเช่นนี้’
‘เจตจำนงสวรรค์! ทรัพยากรอมตะเหล่านั้นเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์! นิกายเงาทิ้งพวกมันเพราะเรื่องนี้ ในอนาคตหากข้ายังเก็บพวกมันเอาไว้ ข้าจะดึงดูดความสนใจของเจตจำนงสวรรค์หรือไม่?’
‘เป็นเช่นนั้น ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายเงา ผู้อมตะต้าหลี่ก็คือผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดที่ถูกผนึกไว้ด้วยสนามรบแห่งความโกลาหล! ทุกอย่างสามารถอธิบายแล้วในเวลานี้’
ภัยพิบัติอากาศสดใสจบลงขณะที่ภัยพิบัติน้ำมันพิษเริ่มขึ้น
ฉากต่อไปทำให้ฟางหยวนตกใจมาก
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าวิญญาณกาลเวลาถูกค้นพบโดยนิกายเงามานานแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือจากนิกายเงา เขาจึงไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงหลังจากวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงพังทลายลง
ขณะเดียวกันฉินไป่เฉิงกับคนอื่นๆยังช่วยเขาจัดการปัญหาโดยการเผชิญหน้ากับฟงจิวเก้อ
พลังอำนาจของนิกายเงาน่าเหลือเชื่อมาก พวกเขากระทั่งสามารถอนุมานภัยพิบัติทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น
‘ครั้งนี้ความลับเรื่องการครอบครองวิญญาณกาลเวลาของข้าจะถูกเปิดเผยให้คนทั้งโลกได้รับรู้’
‘ดูเหมือนนิกายเงาต้องการใช้ประโยชน์จากปีศาจต่างโลกเช่นข้า แต่เนื่องจากโชคชะตาพลิกผัน นิกายเงาของภาคเหนือจึงถูกกำจัดไปเกือบหมด ไม่ นี่เป็นเพราะเจตจำนงสวรรค์!?’
‘นิกายเงาใช้วิธีใดในการอนุมานภัยพิบัติทั้งหมด ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีใด มันก็เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการต่อต้านภัยพิบัติ!’
‘เทพปีศาจจิตวิญญาณช่างน่าเกรงขามนัก! เขาน่าจะเป็นผู้อมตะระดับเก้าที่ทรงพลังที่สุด ในช่วงที่เขามีชีวิต เขาอาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเก้าคนอื่นๆ แต่หลังจากเขาใช้วิธีกลืนกินดวงวิญญาณ เขาสามารถขโมยความทรงจำและประสบการณ์การบ่มเพาะจากคนอื่นๆ แม้ความสำเร็จของเขาจะไม่ยกระดับขึ้นทันทีเหมือนการคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน แต่หลังจากหลายปี เขาจึงประสบความสำเร็จในหลากหลายเส้นทางรวมถึงเส้นทางแห่งค่ายกลและเส้นทางแห่งปัญญา อย่างน้อย็วามสำเร็จของเขาก็ต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์เอก! มันไม่แปลกที่เขาจะสามารถอนุมานภัยพิบัติทั้งหมด!’
‘ในกรณีนี้มันกลับเป็นเรื่องแปลกที่เขาไม่เคลื่อนไหว เขาทำเช่นนี้เพราะมีเจตนาบางอย่างงั้นหรือ?’
ภัยพิบัติน้ำมันพิษและความทรงจำสีเทาจบลงขณะที่ภัยพิบัติเถาวัลย์มังกรเริ่มขึ้น
หอคอยดวงตาสวรรค์ต่อสู้เป็นครั้งสุดท้ายโดยใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุด
เทพปีศาจจิตวิญญาณปกป้องค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาด้วยทุกสิ่ง
ในที่สุดหอคอยดวงตาสวรรค์ก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เจ้าวังและผู้อมตะวังสวรรค์หลายคนสังเวยตนเองในภารกิจนี้
ทั้งสองฝ่ายประสบความสูญเสียครั้งใหญ่
ร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณหดเล็กลงและกลายเป็นเปราะบางมาก
ดวงวิญญาณของโม่เหยาบังคับร่างผีดิบอมตะโป้ชิงบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและตั้งคำถามกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่นางกลับถูกกำจัด
“เจ้าเป็นอุปสรรคสุดท้ายของข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า น่าเสียดาย หากม่านเยี่ยนซื่อไม่เตือนข้าล่วงหน้า เจ้าอาจทำให้ข้าเดือดร้อน แต่ตอนนี้…ฮ่าฮ่า เจ้าลืมไปแล้วงั้นหรือว่าวิญญาณอมตะทั้งหมดของเจ้ามีเจตจำนงของข้าอยู่ภายใน เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าผู้ใดเป็นผู้ให้อาหารพวกมันตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
คำกล่าวของเทพปีศาจจิตวิญญาณทำให้หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก
ระหว่างช่วงเวลานี้ฟางหยวนพยายามถอดรหัสท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันและได้เรียนรู้หลายสิ่ง
นิกายเงาออกแบบท่าไม้ตายให้อิงอู๋เซี่ย แต่การบ่มเพาะของอิงอู๋เซี่ยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องจัดหาวิญญาณที่เหมาะสมในระดับต่างๆให้อิงอู๋เซี่ย
นี่ทำให้ฟางหยวนสามารถเรียนรู้พวกมันได้อย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนเข้าใจบางอย่าง ‘ข้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากล้มเหลว ข้าจะไม่มีโอกาสที่สอง!’
เทพปีศาจจิตวิญญาณที่พึ่งกินดวงวิญญาณของโม่เหยากล่าวกับฟางหยวน “อิงอู๋เซี่ย เจ้าต้องปกป้องข้า ข้าต้องการเวลาอีกเพียงสิบลมหายใจก่อนที่ทุกสิ่งจะประสบความสำเร็จ”
“ทราบแล้ว!” อิงอู๋เซี่ยบินขึ้นมาหยุดอยู่ด้านหน้าเทพปีศาจจิตวิญญาณด้วยความกระตือรือร้น
“เราหมดโอกาสแล้ว” ผู้อมตะวังสวรรค์ถอนหายใจและเริ่มล่าถอย
ด้านเทพปีศาจจิตวิญญาณ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสิ่งที่กำลังหลอมรวม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“หลังจากวางแผนและทุ่มเทความพยายามมานานหลายหมื่นปี ในที่สุดข้าก็ประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับเก้า วิญญาณดวงนี้จะทำให้ข้าก้าวข้ามผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมดในประวัติศาสตร์ ข้าจะได้รับร่างของปีศาจต่างโลกที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นมาก่อน ผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมดจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับข้า กระทั่งมนุษย์คนแรกจะฟื้นขึ้นมา เขาก็ยังด้อยกว่าข้า ฮ่าฮ่าฮ่า”
เทพปีศาจจิตวิญญาณเงยหน้าหัวเราะขึ้นสู่ท้องฟ้า
‘วิญญาณทารกอมตะ?’ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น ‘วิญญาณดวงนี้มีไว้เพื่อสิ่งใด? มันอนุญาตให้เทพปีศาจจิตวิญญาณบรรลุถึงระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนงั้นหรือ? มันใช่ขอบเขตนิรันดร์หรือไม่?’
ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นน่ากลัว “ยิ่งใกล้จุดจบ ข้ายิ่งไม่สามารถประมาท”
หัวใจของฟางหยวนเต้นแรงอีกครั้ง
แต่สุดท้ายเทพปีศาจจิตวิญญาณก็เงยหน้าพ่นลมหายใจขึ้นสู่ท้องฟ้า
ปราณจิตวิญญาณพุ่งเข้าทำลายวิญญาณสายสืบสวนทั้งหมดของผู้อมตะวังสวรรค์ในครั้งเดียว
‘ดังคาด บทเพลงลึกลับประโยคสุดท้ายอธิบายวิธีใช้ท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี มันก็คือการป้องกันการตรวจสอบดวงวิญญาณ ย้อนกลับไป เทพปีศาจปล้นสวรรค์สามารถยึดครองภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และสามารถเดินทางไปยังโลกหลังความตายก็เพราะท่าไม้ตายนี้’
‘ดังนั้นเทพปีศาจจิตวิญญาณจึงไม่สงสัยในตัวข้า ดูเหมือนว่าอิงอู๋เซี่ยก็เป็นร่างแยกของเขาเช่นกัน’
ฟางหยวนเห็นเทพปีศาจจิตวิญญาณลอยเข้าไปหาทารกอมตะ
ตามข้อมูลจากบทเพลงลึกลับ เขาต้องทำลายวิญญาณทารกอมตะ วิญญาณอมตะบอบบางมาก มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะถูกทำลาย แต่ไม่ว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณจะอ่อนแอเพียงใด มันก็ยังมีความเสี่ยงสูงหากบางคนต้องการต่อต้านเขา
อย่างไรก็ตามฟางหยวนมีความคิดที่แน่วแน่มาก เขาพุ่งเข้าคว้าร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณโดยตรง
“นำวิญญาณสู่ความฝัน” ฟางหยวนกล่าว
ฟางหยวนยังไม่เข้าใจท่าไม้ตายนี้ทั้งหมด สิ่งที่เขาใช้ยังด้อยกว่าท่าไม้ตายนำวิญญาณสู่ความฝันระดับแปด
แต่ตอนนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด
ดังนั้นฟางหยวนจึงประสบความสำเร็จในครั้งเดียว
จากนั้นเขารีบออกจากร่างของอิงอู๋เซี่ยและลอยเข้าหลอมรวมกับวิญญาณทารกอมตะ
เขาฝ่าฝืนคำสั่งของเทพอมตะกลุ่มดาวขณะเดียวกันก็ฉกชิงผลงานที่เทพปีศาจจิตวิญญาณทุ่มเทเวลาและความพยายามทั้งหมดเพื่อสร้างมันขึ้นมา!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น