เทพปีศาจหวนคืน 1015-1017
บทที่ 1015 ฉากเหตุการณ์ในอดีต
แปลโดย iPAT
ไม่เพียงมนุษย์อสูร กระทั่งผู้อมตะวังสวรรค์ที่เห็นฉากเหตุการณ์นี้ยังหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“ปีศาจ! ปีศาจ!”
“ปีศาจตนนี้บ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์ แม้จะมีสาเหตุ แต่เขาก็เต็มไปด้วยความคิดที่ชั่วร้าย เขาคิดว่าไม่มีสิ่งใดที่สามารถฆ่าเขา เขาคิดว่าการฆ่าเป็นเรื่องสนุก เขาคิดว่าการฆ่าเป็นเรื่องธรรมชาติ!”
“ไม่แปลกใจเลยที่เขากลายเป็นเทพปีศาจที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ กระทั่งความเจ็บปวดทางจิตวิญญาณก็ทำให้เขามีความสุข เขาเป็นคนเลือดเย็นและบ้าคลั่งอย่างแท้จริง ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเขาได้อีกแล้ว!”
“ข้าเห็นด้วยที่ความทะเยอทะยานเป็นพื้นฐานของความก้าวหน้า แต่ความคิดของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ความคิดของเขาบิดเบี้ยวและยังเสริมสร้างอุดมการณ์ที่ผิดๆ!”
“ความทรงจำสีเทาไม่สามารถหยุดยั้งเขา กระทั่งตอนนี้เขาจะไม่ใช่เทพปีศาจ แต่จิตใจของเขาก็ยังแข็งแกร่งมาก!”
ผู้อมตะวังสวรรค์วิพากษ์วิจารณ์และเต็มไปด้วยความกังวล เหยียดหยาม และเกลียดชัง
เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงนกร้องดังลงมาจากท้องฟ้า
ผู้อมตะวังสวรรค์มองขึ้นไปด้านบนและแสดงออกอย่างมีความสุข
“หมื่นภัยพิบัติ!”
“หมื่นภัยพิบัติอีกหนึ่ง!”
“หมื่นภัยพิบัติความทรงจำสีเทายังไม่จบแต่กลับมีอีกหมื่นภัยพิบัติลงมา!”
“เทพปีศาจจิตวิญญาณกำลังท้าทายสวรรค์ หากเขาฟื้นขึ้นมา โลกจะถูกย้อมไปด้วยเลือดอีกครั้ง สวรรค์ไม่ต้องการให้เขาทำเช่นนั้นจึงส่งภัยพิบัติเหล่านี้ลงมา เขาต้องพินาศอย่างแน่นอน!”
เสียงนกดังขึ้นและถี่ขึ้น
ท้องฟ้าสว่างไสว
นกฝูงใหญ่บินลงมาเป็นขบวน
“หมื่นภัยพิบัติ อากาศสดใส!” ผู้อมตะวังสวรรค์บางคนจดจำภัยพิบัตินี้ได้
มันดูเหมือนนกแต่แท้จริงแล้วเป็นพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ ทุกแห่งหนที่ฝูงนกบินผ่าน ห้วงมิติจะถูกกลืนกิน นี่เป็นพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวและไม่สามารถต่อต้าน
“อากาศสดใส? ในประวัติศาสตร์ บรรพบุรุษของคนเหนือเคยเผชิญหน้ากับมันและสามารถรอดชีวิต หลังจากนั้นเขาได้รับแรงบันดาลใจและสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะวิหคเขียวสามปีก ลูกหลานของเขาได้รับสืบทอดท่าไม้ตายดังกล่าวและใช้มันปกครองภาคเหนือ”
“ถูกต้อง นี่คือภัยพิบัตินั้น”
ภายใต้การจ้องมองที่คาดหวังของกลุ่มผู้อมตะวังสวรรค์ ฝูงนกบินวนไปรอบๆเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ไม่ว่าฝูงนกจะบินไปที่ใด พวกมันก็จะฝากบาดแผลเป็นทางยาวเอาไว้
ในไม่ช้าร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็เต็มไปด้วยบาดแผล แต่การแสดงออกของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง
ตรงข้ามกับอิงอู๋เซี่ยที่กรีดร้องอยู่ใต้ดิน โป้ชิงแสดงออกด้วยความกังวล
เมฆสีเทายังแสดงฉากเหตุการณ์ในความทรงจำอันยาวนานของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ตอนนี้มันเรืองแสงสีเขียวสดใส นี่คือภาพของสวรรค์สีเขียว
กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กำลังต่อสู้กับกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหค
เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ เขาอยู่ในชุดคลุมดำ เส้นผมสีดำ และปลดปล่อยกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารออกมา
“มนุษย์ พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว!” ผู้นำเผ่ามนุษย์วิหคตะโกนออกมาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
มันก็คือเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์!
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคมากกว่าสิบคนบินเข้าไปในเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์และทำให้มันระเบิดแสงที่งดงามออกมา
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ไม่สามารถเอาชนะมัน เทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัสแทบไม่สามารถรักษาชีวิต
ฉากเหตุการณ์มากมายปรากฏขึ้นรอบๆเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ประสบการณ์ชีวิตมากมายของเขาทำให้ผู้คนที่ได้เห็นรู้สึกมึนงงและไม่สามารถนับจำนวนฉากที่ปรากฏขึ้น
ทุกคนเห็นเขาเดินไปบนเส้นทางสายปีศาจขณะที่เจตนาสังหารและการบ่มเพาะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เป็นเพียงเวลานี้ที่ภาพเหตุการณ์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบริเวณขาซ้ายของเขา
ผู้อมตะที่เห็นสิ่งนี้เริ่มเข้าใจบางอย่าง ยิ่งฉากเหตุการณ์มีขนาดใหญ่เท่าใด มันก็ยิ่งส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณมากเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อฉากนี้ปรากฏขึ้น ทุกคนจึงให้ความสนใจมากขึ้น
มันเป็นพื้นที่สีขาว
นี่คือด่านรับสืบทอดมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
เทพปีศาจจิตวิญญาณเดินเข้าไปและกล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง “แม้เจ้าจะเป็นเทพปีศาจแต่เจ้าก็ตายไปแล้ว เหตุใดไม่ทิ้งมรดกของเจ้าไว้กับข้า?”
แต่มรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์มีไว้สำหรับปีศาจต่างโลกเท่านั้น
เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ใช่ปีศาจต่างโลก เขาไม่มีคุณสมบัติรับสืบทอดมรดก
เขาพยายามทุกวิถีทางแต่สุดท้ายก็กระอักเลือดออกมาและต้องกลับออกไปมือเปล่า
…..
เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้า เขายึดครองโลกและเข่นฆ่าผู้คน
เขายืนอยู่บนยอดเขาด้วยเส้นผมสีขาว
มองจากระยะไกล ทุกที่เต็มไปด้วยกองซากศพและซากปรักหักพัง
สิ่งนี้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เทพปีศาจจิตวิญญาณทำลายกองกำลังมากมายและสังหารผู้คนไปมากกว่าสิบล้านคนเพื่อหลอมรวมวิญญาณอายุยืน
เขาเล่นกับวิญญาณอายุยืนที่อยู่ในมือด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน
เขามองทิวทัศน์เบื้องด้านและพึมพำกับตนเอง “สวรรค์ หากเจ้าต้องการฆ่าพวกเรา เหตุใดต้องสร้างพวกเราขึ้นมา?”
แม้เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าแต่เขายังไม่เข้าใจเรื่องนี้
เส้นทางการฆ่าของเขาก็ไม่สามารถอธิบายมัน
…..
ภาพต่อไปปรากฎขึ้น
เทพปีศาจจิตวิญญาณมายังด่านรับสืบทอดมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อีกครั้ง
เจตจำนงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ปรากฎตัวต่อหน้าเขา “ผู้ที่สามารถบรรลุระดับเก้าย่อมมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ข้าหวังว่าเจ้าจะใจกว้างและทิ้งมรดกของข้าไว้ให้กับคนที่โชคชะตากำหนด”
เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนข้ายังเด็ก ข้าต้องการทุกสิ่งที่นี่ แต่ตอนนี้ข้าได้รับเต๋าของข้ามาแล้ว ไม่ว่าสมบัติที่นี่จะล้ำค่าเพียงใด มันก็ไม่ดึงดูดข้าอีกต่อไป ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องจะถาม”
เจตจำนงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เผยรอยยิ้ม “ข้าเข้าใจ คนที่บรรลุถึงจุดนี้มักมีคำถามเกี่ยวกับสวรรค์พิภพ ข้าจะแบ่งปันประสบการณ์ของข้าเพื่อเป็นสิ่งอ้างอิงแก่เจ้า”
“อืม” เทพปีศาจจิตวิญญาณพยักหน้า
เจตจำนงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์กล่าวต่อ “เจ้าอาจจะรู้แล้วว่าข้าไม่ได้มาจากโลกใบนี้ ข้าเป็นสิ่งที่พวกเจ้าเรียกว่าปีศาจต่างโลก”
“โลกที่ข้ามาแตกต่างจากที่นี่ สำหรับข้า ข้าเป็นเพียงนักเดินทางที่ต้องการกลับบ้าน ข้ามุ่งมั่นเพื่อเป้าหมายนี้มาตลอดทั้งชีวิต”
“ชื่อจริงของข้าคือเพิ่งเจียซัน รูปลักษณ์เดิมของข้ามีเส้นผมสีทองและดวงตาสีฟ้า ก่อนมาที่นี่ ข้ามีคู่หมั้นที่งดงาม เรากำลังจัดเตรียมสถานที่แต่งงาน ข้ามีสถานะสูงในสังคมของที่นั่นเพราะข้าเป็นผู้สร้างหุ่นยนต์”
“หุ่นยนต์?” ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณส่องประกายขึ้นด้วยความสนใจ
แม้เขาจะเคยเดินทางไปทั้งห้าภูมิภาคแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับโลกใบอื่น
“หุ่นยนต์…เจ้าสามารถคิดว่ามันเป็นหุ่นเชิดหรือชุดเกราะของมนุษย์ ผู้คนอยู่ภายในมันและปลดปล่อยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ออกมา”
…..
ครู่ต่อมาฉากอื่นปรากฎขึ้น
มันคือวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง
เทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในมิติเก็บมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด เขาถอนหายใจ “วิธีนี้สามารถยึดอายุ แต่การใช้ดวงวิญญาณยึดครองร่างเป็นวิธีที่สิ้นหวัง มันยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงความตาย ในการยืดอายุ วิญญาณอายุยืนยังเป็นวิธีที่ดีที่สุด เส้นทางของผู้อมตะเต็มไปด้วภัยพิบัติ มันยากที่ดวงวิญญาณจะดำรงอยู่ ชีวิตที่ยืนยาวก็คือการต่อต้านสวรรค์ มันยาก…ยาก…ยาก…”
“เทพอมตะตะวันเดือด แม้เจ้าจะสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงและพยายามปล้นชิงวิญญาณอายุยืนในภาคเหนือ แต่เจตจำนงสวรรค์นั้นชั่วร้าย มันทำให้วิญญาณอายุยืนลดลงเรื่อยๆ แม้เจ้าจะได้รับวิญญาณอายุยืนทั้งหมดบนโลกใบนี้ แล้วอย่างไร?”
“เจตจำนงสวรรค์ควบคุมวิญญาณอายุยืน สิ่งที่ชั่วร้ายก็คือเจตจำนงสวรรค์”
…..
สายธารแห่งกาลเวลา
เทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปยังดอกบัวสีแดงที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
ร่างกายของเขาปลดปล่อยแสงสีดำพุ่งเข้ากัดกร่อนดอกบัวสีแดง
ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ เขาทิ้งใบหน้าภูตผีเอาไว้ที่นั่น
“ในประวัติศาสตร์เทพปีศาจบัวแดงลึกลับที่สุด…” เทพปีศาจจิตวิญญาณถอนหายใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเขายังส่องประกาย “ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดเจ้าจึงหยุดและทิ้งวิญญาณชะตากรรมที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้เบื้องหลัง?”
เวลาผ่านไป
เทพปีศาจจิตวิญญาณแสดงออกด้วยความตกใจและสับสน
เขาพึมพำ
“แผนการของเทพอมตะกลุ่มดาวช่างลึกล้ำ”
“ดังนั้นก็มีเพียงปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์จึงจะสามารถทำลายวิญญาณชะตากรรมได้อย่างสมบูรณ์”
“กระทั่งเทพปีศาจปล้นสวรรค์ก็เป็นเพียงครึ่งปีศาจต่างโลก เขาคล้ายกับท่าไม้ตายเปลี่ยนดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณของเขามาจากโลกอื่น แต่ร่างกายของเขาเป็นของโลกใบนี้”
“ข้าต้องการยืดอายุขัย ข้าต้องต่อต้านสวรรค์ โชคไม่ดีที่เจตจำนงสวรรค์ไม่มีดวงวิญญาณ ข้าไม่สามารถฆ่ามัน บางทีด้วยความช่วยเหลือจากมรดกของเทพปีศาจบัวแดง ข้าอาจกลายเป็นครึ่งปีศาจต่างโลก”
…..
ในห้องลับที่มืดมิด
เทพปีศาจจิตวิญญาณนั่งอยู่บนพื้น มีค่ายกลวิญญาณจำนวนมากอยู่ด้านหน้าเขา
ภายในค่ายกลวิญญาณมีซากศพของผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก คนแก่ และมนุษย์กลายพันธุ์ทุกชนิด
ตอนนี้ร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณผอมแห้งและเต็มไปด้วยเลือด แต่ดวงตาของเขายังส่องประกาย
เขามองหนังสือเล่มหนึ่ง
“ตำนานมนุษย์คนแรก ข้าเข้าใจทั้งหมดแล้วในวันนี้ เจ้าแสดงให้เห็นถึงเส้นทางของมนุษย์ เจ้าคือมรดกที่แท้จริงที่มนุษย์คนแรกทิ้งไว้”
“ด้วยวิถีของมนุษย์ ข้าสามารถสร้างร่างใหม่ หลังจากดวงวิญญาณสถิตร่าง ข้าจะกลายเป็นครึ่งปีศาจต่างโลก”
“บางทีไม่เพียงเท่านั้นแต่ข้ายังสามารถ…”
“น่าเสียดาย มันสายไปแล้ว ข้าบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะรักษาได้”
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ผู้อมตะวังสวรรค์ตกตะลึงมาก
เทพปีศาจจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่แท้จริงแล้วตายเพราะอาการบาดเจ็บ ผู้ใดทำร้ายเขา? หรือบางทีเขาอาจทำร้ายตนเองเพื่อทดสอบวิถีของมนุษย์?
หมื่นภัยพิบัติยังดำเนินต่อไป
แขนมากกว่าครึ่งของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกโจมตีโดยฝูงนก ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยบาดแผลแต่เขากลับไม่ขัดขืน
บทที่ 1016 วันเวลาที่ยาวนาน
แปลโดย iPAT
อีกฉากหนึ่งปรากฏขึ้น
ภายในประตูแห่งชีวิตและความตาย
โลกหลังความตาย
เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่มีร่างกายภาพ สิ่งที่ปรากฏเป็นเพียงดวงวิญญาณที่อยู่ในรูปลักษณ์ของสัตว์ประหลาดสามเศียรพันกร
เขามองรูปลักษณ์ของตนผ่านภาพสะท้อนบนผิวทะเลสาบ “ดีมาก ข้าสร้างวิธีการกลืนกินวิญญาณโดยอ้างอิงวิธีบนเส้นทางอาหาร มันไม่เพียงทำให้ข้าสามารถฟื้นฟูพลังอำนาจ แต่ข้ายังสามารถกินดวงวิญญาณของผู้อมตะคนอื่นๆเพื่อให้ได้รับความทรงจำและประสบการณ์การบ่มเพาะของพวกเขา ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็นประโยชน์ที่ไม่คาดคิด…”
“แต่หลังจากทั้งหมดข้าไม่สามารถหาดวงวิญญาณของเทพอมตะหรือเทพปีศาจ ข้าเข้าใจว่าเหตุใดเทพอมตะกลุ่มดาวจึงไม่อยู่ที่นี่ แต่เทพปีศาจปล้นสวรรค์ก็ไม่อยู่ที่นี่เช่นกัน เขากลับบ้านของเขาแล้วงั้นหรือ?”
“ถึงเวลาแล้วที่จะกลับไปยังโลกของสิ่งมีชีวิต ปราศจากภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปคอยขัดขวาง มันเป็นเรื่องง่ายมากที่ข้าจะออกจากประตูแห่งชีวิตและความตาย แต่ร่างหลักของข้าไม่สามารถออกไปในเวลานี้ ข้าจะส่งร่างแยกออกไปก่อนเพื่อปูทางให้ข้า”
“ฮืม หากข้าสามารถกลับไป ข้าจะจัดการเจ้าอย่างแน่นอน!”
…..
ในฉากต่อไป ไม่มีเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่เป็นภาพของมนุษย์เจ็ดคน
“เราได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์นัก” หนึ่งในคนทั้งเจ็ดมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“แม้ตอนนี้เราจะเป็นมนุษย์ แต่พวกเรามีประสบการณ์การบ่มเพาะของร่างหลัก เราจะกลายเป็นผู้อมตะได้อย่างแน่นอน”
“เนื่องจากการกีดขวางของแม่น้ำหวนคืน มีเพียงพวกเราทั้งเจ็ดที่สามารถผ่านมาได้”
“มันต้องใช้ความพยายามพอสมควรเพื่อให้ร่างหลักของพวกเราออกมา”
“เพื่อความปลอดภัย เราควรแยกย้ายกันไปในห้าภูมิภาค เราจะติดต่อกันอย่างลับๆเป็นครั้งคราว”
“ในกรณีนี้ เหตุใดพวกเราไม่สร้างองค์กรบางอย่างเพื่อเป็นฉากบังหน้า?”
“นั่นเหมาะสมแล้ว เช่นนั้นเราจะเรียกองค์กรนี้ว่า นิกายเงา เราจะเป็นเงาที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นแต่จะอยู่ในทุกๆที่ วันหนึ่งโลกทั้งใบจะถูกปกคลุมไปด้วยเงาของพวกเรา!”
“เอาล่ะ พวกเราทั้งเจ็ดจะใช้รหัสว่า แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน และม่วง ตามสีของสวรรค์ทั้งเจ็ด มันจะคอยเตือนพวกเราที่เคยอยู่บนจุดสูงสุดแต่ตอนนี้กลับร่วงหล่นลงมาไม่ต่างจากสวรรค์ทั้งเจ็ดที่พังทลายลง มันจะทำให้พวกเราไม่รู้สึกเกียจคร้านหรือลำพองใจ!”
…..
“โป้ชิงเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณงั้นหรือ!?” ผู้อมตะวังสวรรค์อุทาน
ท่ามกลางพวกเขา ผู้อมตะหญิงชราผู้หนึ่งกล่าวด้วยความละอายใจ “ไม่สามารถปฏิเสต่อหลักฐาน นิกายคฤหาสน์วิญญาณผิดที่ไม่สามารถตรวจสอบ”
“วิธีของเทพปีศาจจิตวิญญาณแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกัน กระทั่งวังสวรรค์ยังมีร่างแยกของเขาแทรกซึมเข้ามา โชคดีที่เจ้าวังสังเกตเห็นและสามารถหยุดยั้งปีศาจร้ายตนนี้”
ผู้อมตะวังสวรรค์แสดงความคิดเห็น
ในสถานการณ์ปัจจุบันแม้พวกเขาจะไม่สามารถทำสิ่งใด แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนักเช่นกัน
ตั้งแต่ภัยพิบัติความทรงจำสีเทาเริ่มขึ้น เขาก็หยุดนิ่งไม่ขยับเขยื้อนและปล่อยให้หมื่นภัยพิบัติอากาศสดใสโจมตีเขาอย่างอิสระ
“สีฟ้า…” ใต้ดิน โม่เหยาในร่างผีดิบอมตะโป้ชิงรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นชายคนรักของนางในวัยเยาว์
รอบตัวนางมีภาพเหตุการณ์มากมายปรากฏขึ้นเช่นกัน
มันเป็นภาพของซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยกองซากศพ
ดูเหมือนจะมีการต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้น
“สามี อย่าตาย! ท่านไม่สามารถตาย! หากท่านตาย แล้วข้าจะอยู่อย่างไร?” โม่เหยากรีดร้องอย่างหมดหนทาง
โป้ชิงจับมือของโม่เหยาอย่างอ่อนแรง “เมื่อถึงจุดนี้ ข้าจะไม่ปิดบังมันจากเจ้า ข้ามาจากนิกายเงา ข้าเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้ารักคนผิดแล้ว การรักข้ามีเพียงจะทำให้เจ้าเจ็บปวด ไปซะ มิเช่นนั้นมันจะสายเกินไป”
ร่างของโม่เหยาสั่นสะท้านขึ้น นางส่ายศีรษะและปฏิเสธ “ไม่ ข้าไม่ไป! ข้าไม่สนตัวตนของท่าน ข้ารู้เพียงว่าพวกเรารักกันอย่างสุดซึ้ง นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด ข้าไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น! หากข้าไม่สามารถมีชีวิตอยู่กับท่าน ข้าก็จะตายไปพร้อมท่าน!”
“โอ้ โอ้ โอ้” อิงอู๋เซี่ยเฝ้ามองภาพเหตุการณ์เหล่านี้จากด้านข้างและแสดงออกด้วยความสงสัยและตกใจ
เมฆสีเทาแสดงภาพเหตุการณ์ที่วุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้มันเป็นภาพความทรงจำของเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่ตอนนี้มันกลายเป็นภาพความทรงจำของคนทั้งเจ็ด
ร่างแยกทั้งเจ็ดได้รับมรดกจากเทพปีศาจจิตวิญญาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พวกเขายังต้องพยายามและก้าวข้ามความยากลำบากด้วยตนเอง
บางครั้งเทพปีศาจจิตวิญญาณจะส่งร่างแยกออกมาเป็นครั้งคราว
นั่นทำให้ฉากเหตุการณ์กลายเป็นยิ่งยุ่งเหยิง
อย่างไรก็ตามภาพที่ใหญ่ที่สุดยังดึงดูดความสนใจจากทุกคน
สมาชิกหกคนของนิกายเงามารวมตัวกัน
พวกเขาเป็นร่างแยกกลุ่มแรกที่ออกจากประตูแห่งชีวิตและความตาย ตอนนี้พวกเขากลายเป็นผู้อมตะเรียบร้อยแล้ว
“มันเป็นความผิดของข้า” สีเขียวกล่าว “หากข้าไม่ขอให้สีฟ้ามอบบทเรียนให้พ่อค้าไร้ยางอายในสวรรค์สีเหลือง สีฟ้าคงไม่ตกหลุมรักและทรยศพวกเรา กระทั่งร่างหลักของเราก็ยังถูกเปิดเผย”
“นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า” สีม่วงปลอบใจ “นี่คือกับดักของเจตจำนงสวรรค์! พวกเจ้าไม่สังเกตงั้นหรือ? เมื่อพวกเรากลายเป็นผู้อมตะ ชีวิตของพวกเราเต็มไปด้วยความยากลำบาก ไม่มีสิ่งใดราบรื่น ทุกการกระทำของพวกเราสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นเสมอ”
“เราต้องจัดการเรื่องของสีฟ้าอย่างรวดเร็วมิฉะนั้นร่างหลักของเราอาจถูกขัดขวาง”
“เราจะทำอย่างไร? สีฟ้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งดาบ เขามีพลังการต่อสู้สูงที่สุดในกลุ่มพวกเรา เราต้องรวบตัวและร่วมมือกันกำจัดเขางั้นหรือ?”
“ไม่ นั่นมีความเสี่ยงมากเกินไป ข้ามีแผน หากประสบความสำเร็จ เราจะสามารถเปลี่ยนเทพธิดาโม่เหยาให้มาอยู่ข้างพวกเรา” สีม่วงกล่าวอย่างช้าๆ
“โอ้ แผนใด?”
สีม่วงยิ้ม “สาเหตุที่สีฟ้าตกหลุมรักเพราะนิกายคฤหาสน์วิญญาณใช้วิญญาณความรัก วิญญาณดวงนี้เป็นวิญญาณอมตะระดับเก้าที่ไม่สามารถต่อต้าน ดังนั้นสีฟ้าจึงตกเป็นเหยื่อ มันไม่ใช่ความผิดของเขา”
“แต่บังเอิญว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าพึ่งบรรลุระดับปรมาจารย์เอก นั่นทำให้ข้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งดาบของสีฟ้า ข้ายังสามารถช่วยสีฟ้าแก้ปัญหาและอนุมานเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงหนึ่งให้เขา มันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบและปัญญา”
“วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญางั้นหรือ?”
สีม่วงพยักหน้า “ถูกต้อง ดาบแห่งปัญญาสามารถตัดความรัก แม้วิญญาณอมตะดวงนี้จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับวิญญาณอมตะระดับเก้า แต่เราเพียงต้องตัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความรักออกจากร่างของสีฟ้าเท่านั้น เราจะวางแผนให้เขาค้นพบเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้ด้วยตนเอง”
“เมื่อเขาใช้มัน ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความรักบนร่างของเขาจะถูกกำจัดออกไป เขาจะกลับมามีเหตุผลและกลับมาเป็นหนึ่งในพวกเราอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากโม่เหยายังรักสีฟ้า เราก็จะทำให้นางมาอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเราด้วย”
คำกล่าวของสีม่วงทำให้ทุกคนมีความสุขมาก
“ยอดเยี่ยม! เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยม!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคู่ควรกับเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอย่างแท้จริง”
…..
“กระไรนะ!?” เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ผีดิบอมตะโป้ชิงที่ติดอยู่ใต้ดินขมวดคิ้วลึก
ดวงวิญญาณของโม่เหยาในร่างของผีดิบอมตะโป้ชิงรู้ว่าสามีนางหลอมรวมวิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาขึ้นมาด้วยตนเอง
“แล้ว…หลังจากนั้นสีฟ้าหลอกข้าหรือเขายังรักข้าอยู่?” ดวงวิญญาณของโม่เหยาสั่นสะท้านขึ้น นางเต็มไปด้วยความสงสัย
แต่ในเวลานี้ฉากเหตุการณ์อื่นก็ปรากฏขึ้น
ร่างแยกทั้งเจ็ดของเทพปีศาจจิตวิญญาณรวมตัวกัน
“ตราบเท่าที่ข้ากลายเป็นเทพอมตะ แม้จะไม่มีร่างหลัก เราก็สามารถครองโลก พลังอำนาจของข้ากระทั่งเจตจำนงสวรรค์ก็ไม่สามารถกำจัดข้า อย่างน้อยที่สุดก็มีวิญญาณอายุยืนมากมายอยู่ในยุคนี้”
“อย่าดูถูกเจตจำนงสวรรค์” สีเขียวกล่าวอย่างเคร่งขรึม “บทเรียนที่เราได้เรียนรู้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังไม่เพียงพองั้นหรือ?”
“สีม่วง เจ้าเป็นที่ปรึกษาของพวกเรา เจ้าคิดอย่างไร?” สีเหลืองถาม
สีม่วงมองสีฟ้า “หลังจากความล้มเหลวครั้งแรกของสีฟ้า ตราบเท่าที่พวกเราเตรียมพร้อมรับมือและไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ มันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่…แล้วเทพธิดาโม่เหยา?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” สีฟ้าหัวเราะ “หญิงโง่ผู้นั้นพร้อมที่จะเสียสละตนเองเพื่อข้า นางไปที่วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติ นางต้องการดึงหมื่นภัยพิบัติของข้าไปยังตัวนางเอง”
สีม่วงส่ายศีรษะ “แม้เส้นทางแห่งโชคของเทพอมตะตะวันเดือดจะเป็นแนวความคิดที่ดี แต่วิธีของเทพธิดาโม่เหยาจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เนื่องจากนางมีความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น เหตุใดเจ้าไม่ส่งมอบวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณและท่าไม้ตายอมตะให้กับนาง หากเจ้าล้มเหลวในภัยพิบัติ ตราบเท่าที่ดวงวิญญาณของเจ้ายังอยู่ เจ้าก็ยังสามารถเริ่มต้นอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว”
“ตกลง มันจะดีกว่าหากเตรียมตัวให้มากพอ” สีฟ้าพยักหน้า
…..
อิงอู๋เซี่ยรู้สึกถึงความผิดปกติ เขาเร่งกล่าว “อย่าคิดมาก นี่คือหมื่นภัยพิบัติ มันอาจไม่ใช่เรื่องจริง”
ผีดิบอมตะโป้ชิงไม่พูดแต่ปิดเปลือกตาและกำหมัดแน่น
…..
ห้าผู้อมตะนิกายเงารวมตัวกันอีกครั้ง
“สีน้ำเงินล้มเหลว เขาใช้มิติช่องว่างของตนหลอมรวมกับสวรรค์สีน้ำเงินเพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับเจตจำนงสวรรค์ แต่เขากลับจมลงสู่ส่วนลึกของอาณาจักรแห่งความฝัน”
กลุ่มผู้อมตะกลายเป็นเงียบงัน
ไม่นานหลังจากนั้นสีม่วงจึงเปิดปากกล่าว “แม้เราจะสามารถช่วยสีน้ำเงิน แต่เราไม่ควรรีบร้อน นี่อาจเป็นกับดักของเจตจำนงสวรรค์ มันอาจล่อลวงให้พวกเราเปิดเผยตัวตน”
“เห้อ…สีฟ้าล้มเหลวในการก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติครั้งที่สอง พลังอำนาจของมันเหนือกว่าครั้งแรกมากกว่าสิบเท่า เจตจำนงสวรรค์ไม่ต้องการให้เขากลายเป็นเทพอมตะ มันพยายามขัดขวางพวกเราในทุกทาง”
“ข้าจะไม่ซ่อนมันจากพวกเจ้า ข้ารู้สึกสังหรณ์ร้าย เริ่มแรกสีฟ้า ต่อมาสีน้ำเงิน ข้าเกรงว่าคนต่อไปจะเป็นข้า”
กลุ่มผู้อมตะตกใจมาก พวกเขาเร่งกล่าว “สีม่วง อย่าคิดมากเกินไป”
“ข้าไม่ได้คิดมากเกินไป นี่คือคำทำนายของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา…หลังจากที่ข้าจากไป ผู้อมตะต้าหลี่จะรับผิดชอบในส่วนของข้า พลังอำนาจของเจตจำนงสวรรค์เหนือกว่าความคาดหมายของพวกเรา แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้าน จากนี้ไปนิกายเงาของเราจะซ่อนตัวให้ลึกยิ่งขึ้น สะสมความแข็งแกร่ง เมื่อเราทำการท้าทายสวรรค์ เราจะออกไปพร้อมกันเพื่อไม่ให้สวรรค์มีเวลาเตรียมตัว!”
บทที่ 1017 แผนการลึกล้ำ
แปลโดย iPAT
ในภาพขนาดใหญ่
“สีเขียว รีบไป!” สีเหลืองคว้าแขนสีเขียวและส่งเขาออกไป
“ไม่ ข้าไม่ไป! มันยังช่วยมันได้ วิญญาณทารกอมตะยังมีชีวิต!” สีเขียวกรีดร้อง “ปล่อยข้า มันคืองานวิจัยทั้งชีวิตของข้า!”
“เจ้าคิดว่าการระเบิดครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุงั้นหรือ? ดูทรัพยากรอมตะระดับแปดที่เหลืออยู่ ดูพวกมันให้ดี!” สีเหลืองตะโกน
ร่างของสีเขียวสั่นสะท้านขึ้น เมื่อเขาตระหนักถึงบางสิ่ง หน้าผากของเขาก็ปกคลุมไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ เขากล่าวด้วยความหวาดกลัว “ทรัพยากรอมตะเหล่านี้เต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ แม้จะอยู่ในค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่และซ่อนอยู่ในโลกใต้บาดาลของภาคเหนือ มันก็ยังถูกค้นพบงั้นหรือ?”
“มีเพียงปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์เท่านั้นที่สามารถหลบหนีจากเจตจำนงสวรรค์ เป็นเรื่องปกติที่พวกเราจะถูกค้นพบ ไม่จำเป็นต้องท้อใจ พวกเราจะพยายามใหม่คราวหน้า” สีเหลืองปลอบใจ
สีเขียวกลายเป็นพูดไม่ออกแต่กวาดตามองไปรอบๆ
…..
“ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วว่าการอนุมานของเจ้าผิดพลาด ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมรดกของเทพปีศาจบัวแดง” ผู้อมตะต้าหลี่กล่าวอย่างหมดหนทาง
ฝ่ายตรงข้ามเป็นกลุ่มผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆหมอกและเผยให้เห็นเพียงรอยสักรูปดอกบัวสีแดงกลางหน้าผากเท่านั้น
พวกเขาเผยรอยยิ้มเย็น “ข้าใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงในการอนุมาน แล้วมันจะผิดได้อย่างไร? มรดกที่แท้จริงอีกชิ้นของเทพปีศาจบัวแดงอยู่กับเจ้า”
ต้าหลี่เงียบก่อนจะเปิดปากกล่าว “ไม่มีสิ่งใดต้องพูดคุยอีกต่อไป มาสู้กันเถอะ”
หลังกล่าวจบคำ เขาทะยานร่างออกไปทันที
“ในที่สุดเจ้าก็หยุดบ่ายเบี่ยง” ผู้อมตะลึกลับเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้
หลังการต่อสู้อันยาวนาน
ผู้อมตะต้าหลี่ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้าม เขาถูกปราบปรามโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล
…..
ในที่สุดหมื่นภัยพิบัติอากาศสดใสก็จบสิ้นลง
เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ได้ต่อต้าน นั่นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ร่างของเขาหดเล็กลงเกือบหนึ่งในสามส่วน
เมฆสีเทาหายไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่นั่นหมายความว่ามันยังเหลืออีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามหมื่นภัยพิบัติต่อไปกลับเริ่มปรากฏขึ้น มันกำลังรวมตัวกันอยู่เหนือศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ดูเหมือนตราบเท่าที่เทพปีศาจจิตวิญญาณยังคงอยู่ สวรรค์จะไม่ยอมปล่อยเขาไป
หมื่นภัยพิบัติ น้ำมันพิษ!
หยดน้ำมันสีดำร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
มันราวกับน้ำเดือดที่กัดกร่อนร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณและสร้างควันลอยขึ้นสู่อากาศ น้ำมันพิษไหลเข้าสู่บาดแผลของเขาและกัดกร่อนจากภายใน
ฝนน้ำมันพิษทำให้ร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเริ่มเน่าเปื่อยผุพังในอัตราเร็วที่สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แต่เขากลับไม่ตอบโต้
อิงอู๋เซี่ยที่อยู่ด้านล่างรู้สึกกังวล
เขาต้องการกรีดร้อง แต่หากเขาคิดมากเกินไป เขาจะถูกคุกปฐพีดูดลงไปมากกว่านี้
“เหตุใดพวกเจ้าทำตัวเช่นนี้?” อิงอู๋เซี่ยมองโป้ชิง
ตั้งแต่เริ่มต้นผีดิบอมตะโป้ชิงยังไม่ขยับเขยื้อนราวกับเขาได้ตายไปแล้ว
โชคดีที่พวกเขาอยู่ใต้เท้าของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ร่างกายที่ใหญ่โตของเทพปีศาจจิตวิญญาณช่วยบังฝนน้ำมันพิษให้กับพวกเขา
ห่างออกไปไกลมาก
ไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงกำลังหลบหนี
มีกลุ่มผู้อมตะภาคใต้กำลังไล่ล่าพวกเขามาจากด้านหลัง
ความเป็นอริศัตรูต่อผู้อมตะต่างถิ่นของผู้คนทั้งห้าภูมิภาคค่อนข้างรุนแรง กระทั่งในทะเลตะวันออกที่เปิดรับผู้อมตะต่างภูมิภาคมากที่สุดยังไม่ทำให้คนเหล่านี้มีช่วงเวลาที่ง่ายดาย พวกเขามักถูกรังแกและกดขี่โดยผู้อมตะเจ้าถิ่นเสมอ
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ หลังจากไห่ลั่วหลันเกือบสังหารผู้อมตะภาคใต้คนหนึ่ง สถานการณ์จึงดำเนินไปถึงจุดที่ไม่สามารถควบคุม
ผู้อมตะภาคใต้พุ่งเข้าโจมตีไห่ลั่วหลันด้วยความโกรธ
นอกจากนี้พวกเขายังเรียกกำลังเสริม
ไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีตั้งแต่แรก พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อนแล้ว พวกเขาต่อสู้และล่าถอย ภายใต้การเคลื่อนไหวนี้ พวกเขาจึงออกห่างจากภูเขาอี้เทียนมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าความทะเยอทะยานของไห่ลั่วหลันจะยิ่งใหญ่เพียงใด นางก็ไม่กล้าเข้าใกล้ภูเขาอี้เทียนอีก
ที่นั่นไม่ใช่สถานที่สำหรับผู้อมตะระดับหก
ไม่ใช่สำหรับผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นกัน สำหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขาเป็นได้เพียงตัวละครรอง
หลังจากทั้งหมดที่นั่นเป็นสนามรบของเทพปีศาจจิตวิญญาณกับสวรรค์!
หมื่นภัยพิบัติน้ำมันพิษหยุดลงแล้ว ตอนนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกโอบล้อมไปด้วยอีกภัยพิบัติหนึ่ง
หมื่นภัยพิบัตินี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์
มันไร้รูปร่างและปราศจากตัวตน มีเพียงกลิ่นอายลึกลับที่ลอยอบอวลอยู่รอบๆเท่านั้น
กลิ่นอายลึกลับทำให้ร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันในเมฆสีเทายังมีภาพอื่นปรากฏขึ้น
ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อไอออกมาเป็นเลือดหลังจากใช้วิญญาณเผยความลับสวรรค์ เขาพึมพำ “ดังนั้นฟางหยวนก็มีวิญญาณกาลเวลา ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะและเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูของภาคกลาง จากนั้นเขายังเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือและเป็นเหตุให้วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงพังทลายลง”
“เนื่องจากเขาเป็นปีศาจต่างโลกที่ครอบครองวิญญาณกาลเวลา เขาจึงรอดพ้นจากชะตากรรม ฮ่าฮ่า นี่อาจเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการต่อต้านสวรรค์ ข้าจะช่วยปกปิดร่องรอยของเจ้ากับไท่เป่ยหยุนเฉิงเพื่อไม่ให้ผู้อมตะคนอื่นอนุมานเกี่ยวกับพวกเจ้า”
…..
ฉินไป่เฉิงลอบมองค้างคาวมรณะและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอยู่ห่างๆ
นี่เป็นช่วงเวลาที่ตงฟางชางฟานกำลังดำเนินการยึดครองร่าง
“ตงฟางชางฟานใช้วิธียึดครองร่างแต่ร่างหลักของเขาถูกค้นพบโดยเจตจำนงสวรรค์ส่งผลให้เขาพบภัยพิบัติที่รุนแรง เมื่อร่างหลักของเราพยายามฟื้นคืนสู่ชีวิต เขาจะพบกับภัยพิบัติที่รุนแรงกว่านี้”
ผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์พยักหน้าอยู่ด้านข้าง “พวกเราควรจากไปได้แล้ว การทดสอบเจตจำนงสวรรค์สิ้นสุดลงแล้ว แต่เหตุใดฉูหลงยังไม่กลับมา?”
เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพธิดาเจียงหยูปรากฏตัวขึ้นด้วยการแสดงออกที่ไม่ดีนัก “ฉูหลงตายแล้ว ภารกิจยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะกระท่อมฟางล้มเหลว”
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฉินไป่เฉิงถาม “ฉูหลงเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งไฟและยังมีความสำเร็จระดับปรมาจารย์เอก”
“มันเป็นเพราะผู้สืบทอดของปีศาจอมตะกระท่อมฟาง” เทพธิดาเจียงหยูตอบ “คนผู้นี้ปกปิดตัวตนไว้ลึกมาก ข้าแทบไม่สามารถกลับมาเช่นกัน”
“ปีศาจอมตะกระท่อมฟาง…ฮืม ลืมมันไปซะ เราจะยอมแพ้ในครั้งนี้ ก่อนแผนการใหญ่จะเริ่มขึ้น เราไม่สามารถเปิดเผยตัวตนเพื่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้และทำให้เจตจำนงสวรรค์มีโอกาสโจมตีพวกเรา” ฉินไป่เฉิงคิดก่อนกล่าว
…..
หุบเขาเหล่าโป
สมาชิกนิกายเงากำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้อมตะจากภาคกลาง
ฉินไป่เฉิงมองฟงจิวเก้อและถอนหายใจ “เจตจำนงสวรรค์มาถึงที่นี่แล้ว เพื่อปกป้องฟางหยวน ม่านเยี่ยนซื่อช่วยปกปิดร่องรอยให้เขาแต่กลับนำกลุ่มผู้อมตะภาคกลางมาที่นี่”
“พวกเราจะทำอย่างไร?” เทพธิดาเจียงหยูถาม
“เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้” ฉินไป่เฉิงกัดฟันกล่าว
…..
“แค่ก แค่ก แค่ก” ม่านเยี่ยนซื่อไออย่างต่อเนื่อง เขาดูอ่อนเพลียราวกับกำลังจะขาดใจตาย
“ข้าใช้วิญญาณเผยความลับสวรรค์โดยแลกกับอายุขัยหนึ่งร้อยปี แต่มันก็คุ้มค่า ข้าอนุมานได้ว่าวิญญาณกาลเวลาอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก มันถูกใช้ไปแล้ว”
“ฟางหยวนไปที่ภูเขาอี้เทียนก่อนเวลา เห็นได้ชัดว่าเขารู้อนาคต ข้าสามารถสรุปได้ว่าร่างหลักของเราล้มเหลวไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงใช้มรดกของเทพปีศาจบัวแดงช่วยส่งฟางหยวนไปกำเนิดใหม่ในอดีตเพื่อเปลี่ยนอนาคต โชคดีที่วิญญาณกาลเวลาเป็นวิญญาณอมตะระดับหกเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว”
“ในกรณีนี้ฟางหยวนเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุด เมื่อมองเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น ข้าจะสามารถแก้ไขแผนการ”
“การค้นวิญญาณของเขาเป็นเรื่องง่ายแต่มันจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์หรือไม่?”
…..
“ตามแผนการของข้า โป้ชิงกับเทพเจ็ดดาราสามารถเหนี่ยวรั้งวังสวรรค์ ผลลัพธ์นี้ดีกว่าครั้งก่อนหน้า”
ม่านเยี่ยนซื่อนั่งอยู่ในศาลาหินและมองไปยังกลุ่มเมฆหมอกด้านหน้า
“ด้านกองกำลังพันธมิตรผีดิบ พวกเขาเตรียมตัวพร้อมแล้วและสามารถเป็นกำลังเสริม มันจะดีที่สุดหากสามารถเก็บพวกเขาเอาไว้ เห้อ…ข้าหวังว่าเราจะไม่ต้องใช้พวกเขา”
“ตอนนี้ข้าเหลืออายุขัยเพียงยี่สิบปีก่อนตาย มันเป็นธรรมชาติที่ร่างแยกจะกลับไปรวมกับร่างหลัก แต่ก่อนตายข้าควรช่วยร่างหลักอนุมานภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น”
ครู่ต่อมา
“แค่ก แค่ก แค่ก ข้ายังไม่ตายงั้นหรือ? นี่หมายความว่าข้าสามารถอนุมานภัยพิบัติทั้งหมด? ไม่ มันเป็นเพราะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายเงาทั้งหมดที่ช่วยกันอนุมานมาจากรุ่นสู่รุ่น”
“ฮ่าฮ่า ช่างน่าขันนัก ด้วยการใช้วิญญาณเผยความลับสวรรค์เป็นแกนหลักของท่าไม้ตายอมตะ พวกเราสามารถอนุมานเนื้อหาสำคัญของภัยพิบัติทั้งหมดจริงๆ แต่วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาพยายามกำจัดอิทธิพลของร่างหลักแต่ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากเขาตาย เขาจะช่วยเหลือพวกเราได้มากถึงเพียงนี้”
…..
เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้อมตะวังสวรรค์ตกใจมาก
ปรากฏว่านิกายเงาอนุมานภัยพิบัติทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่เคลื่อนไหวงั้นหรือ?
หมื่นภัยพิบัติลึกลับผ่านไป หมื่นภัยพิบัติใหม่ลงมา
หมื่นภัยพิบัติ เถาวัลย์มังกร!”
เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและเกี่ยวพันร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้
ในที่สุดมันก็กลายเป็นกรงเถาวลัย์กักขังเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้ภายใน
พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณและดูดกลืนจิตวิญญาณของเขาเพื่อเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงตัวมันเอง
“มีบางสิ่งผิดปกต!”
“เขาทำเช่นนี้เพราะมีวัตถุประสงค์บางอย่าง ดูที่ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา!”
ผู้อมตะวังสวรรค์มองไปรอบๆและเริ่มตระหนักถึงบางสิ่ง
เนื่องจากนิกายเงาสามารถอนุมานภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเตรียมตัวรับมือกับพวกมันเอาไว้แล้ว
เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ได้ต่อต้านภัยพิบัติเพราะเขาพยายามหล่อเลี้ยงค่ายกลวิญญาณด้วยจิตวิญญาณของเขาเอง
“เขาพยายามหลอมรวมสิ่งใด? เขากระทั่งใช้ตนเองเป็นวัสดุในการหลอมรวม!”
“ไม่เพียงเท่านั้น เขายังใช้พลังงานแห่งเต๋าจากภัยพิบัติให้เป็นประโยชน์อีกด้วย!”
ผู้อมตะวังสวรรค์อ้าปากค้างเมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้
เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่เพียงเสียสละตนเองแต่เขายังใช้พลังอำนาจของภัยพิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมาย
แต่เป้าหมายของเขาคือสิ่งใด?
ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาบรรลุถึงขั้นตอนสุดท้าย ภายในกลุ่มก้อนเมฆสีดำมีแสงสว่างส่องประกายขึ้น
หัวใจของเจ้าวังสวรรค์จมดิ่งลง
เขากล่าวด้วยความเคร่งเครียด “เราไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไป เราต้องทำลายแผนการของเขา ไม่ว่าเขากำลังหลอมรวมสิ่งใด เราก็ต้องทำลายมัน!”
“แต่เราไม่สามารถเคลื่อนไหว”
“ไม่ พวกเรายังมีโอกาส นี่เป็นบางสิ่งที่เจ้าวังสวรรค์ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ข้อมูลนี้ถูกวิจัยและเก็บเป็นความลับมาตลอด” เจ้าวังกล่าว
ผู้อมตะวังสวรรค์รู้สึกดีใจและประหลาดใจ “แล้วเหตุใดท่านไม่ใช้มัน!?”
เจ้าวังเผยรอยยิ้มขมขื่นก่อนจะบอกราคาของมัน
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ กลุ่มผู้อมตะวังสวรรค์กลายเป็นเงียบงัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น