เทพปีศาจหวนคืน 1011-1012
บทที่ 1011 เทพปีศาจจิตวิญญาณ
แปลโดย iPAT
ผู้อมตะทั้งหมดแทบไม่เชื่อสายตาของตนเอง
พิณทะลวงใจ สายธารแห่งดวงดาว ภัยพิบัติใหญ่ทั้งสองกลับถูกหยุดอย่างง่ายดายโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันง่ายราวกับการดื่มน้ำ!
‘นี่…นี่คือพลังอำนาของเทพปีศาจระดับเก้า?’ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้าน
เทพปีศาจจิตวิญญาณตายไปแล้ว สิ่งที่ปรากฏขึ้นในเวลานี้เป็นเพียงดวงวิญญาณของเขา
แต่ดวงวิญญาณของเขาก็ยังเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทั่วไปอย่างมาก
เขาสูงหลายพันเมตร กระทั่งเมฆสีดำของค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาก็ลอยอยู่ระดับเอวของเขาเท่านั้น
ฟางหยวนกับคนอื่นๆลอยอยู่กลางอากาศราวกับแมลงวันตัวเล็กตัวน้อย
เขามีสามหัว!
ศีรษะตรงกลางมีเขามังกร แผงคอราชสีห์ ดวงตาอสรพิษ และงาช้าง
ศีรษะด้านซ้ายมีหน้าผากสีลูกท้อ เส้นผมเหมือนหญ้า และมีดวงตาเหมือนดอกไม้
ศีรษะด้านขวามีผิวเหมือนก้อนเมฆ ดวงตาเต็มไปด้วยประกายสายฟ้า ใบหูเป็นไฟ และมีปากสีทอง
เขามีพันแขน ข้างละห้าร้อยที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของปีศาจร้าย
มือภูตผีก่อนหน้านี้เป็นเพียงหนึ่งในมือทั้งพันของเขาเท่านั้น!
“อา…รูปลักษณ์เช่นนี้อย่าบอกว่า…ไม่…เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!” เทพธิดาหลี่ซานตระหนักถึงตัวตนของเทพปีศาจจิตวิญญาณและกรีดร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นางยกมือขึ้นกุมศีรษะ ส่ายศีรษะ และถอยหลังกลับไป ตอนนี้ความสง่างามในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ดของนางสูญสลายไปอย่างสิ้นเชิง
รูปลักษณ์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ได้ถูกเก็บไว้เป็นความลับ มันถูกเปิดเผยและแผ่กระจายออกไปในวงกว้าง กระทั่งผู้ใช้วิญญาณมนุษย์ยังรู้จักกันเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายแดนภาคใต้ ผู้คนนับถือเทพปีศาจจิตวิญญาณและมีรูปปั้นของเขาอยู่ทั่วไป
รูม่านตาของไห่ลั่วหลันหดเล็กลง นางตกใจจนพูดไม่ออก
ไท่เป่ยหยุนเฉิงกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากขณะที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยี่ยบ
แต่ฟางหยวนแสดงออกด้วยความคาดหวัง
ความตกใจของเขาก่อนหน้านี้หายไปแล้ว
‘นี่…นี่คือจุดสูงสุดของเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ? ดวงวิญญาณสามารถเปลี่ยนเป็นร่างกายภาพที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณนี้ต้องมากกว่าจิตวิญญาณของมนุษย์หนึ่งร้อยล้านคนอย่างแน่นอน หากเปรียบเทียบ จิตวิญญาณของข้าไม่ต่างจากมดตัวน้อยที่เผชิญหน้ากับดวงจันทร์!’
‘แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะตายไปแล้ว แต่ดวงวิญญาณของเขากลับสามารถออกมาจากประตูแห่งชีวิตและความตาย ตอนนี้เขากำลังท้าทายสวรรค์พิภพ เขาพยายามทำสิ่งใด?’
‘เมื่อใดที่ข้าจะไปถึงระดับนั้น? แต่กระทั่งจะบรรลุระดับนี้ เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากความตาย ข้าไล่ล่าชีวิตนิรันดร์…มันจะมีอยู่จริงหรือไม่?’
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความตื่นเต้น
แม้จะเป็นผีดิบแต่เขายังรู้สึกถึงเลือดที่เดือดพล่าน
ผู้คนสามารถเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นตัวอย่างที่ดีในแง่ของการบ่มเพาะอย่างไม่สามารถปฏิเสธ
แม้ฟางหยวนจะมีประสบการณ์ห้าร้อยปี แต่เขายังไม่ต่างจากแมลงวันหากเปรียบเทียบกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ความหวาดกลัวของฟางหยวนยังไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง แต่ความตื่นเต้นกำลังทำให้เขาคลั่ง
เช่นเดียวกับคนที่ต้องการปีนขึ้นสู่ยอดเขา แม้พวกเขาจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย แต่พวกเขายังปรารถนาและต้องการปีนป่ายขึ้นไป
เกี่ยวกับความตาย ฟางหยวนลืมมันไปนานแล้ว
แม้เขาจะตายระหว่างทางแล้วอย่างไร?
นี่คือเป้าหมายที่เขาไขว่คว้า!
“บึม!”
เป็นเพียงเวลานี้ที่หอคอยดวงตาสวรรค์ปลดปล่อยแสงสว่างออกมาทำให้มือภูตผีของเทพปีศาจจิตวิญญาณระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและสามารถปลดปล่อยตัวมันเอง
หลังจากทั้งหมดมันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้า
บรรยากาศภายในหอคอยดวงตาสวรรค์กลายเป็นหนักหน่วง
ผู้อมตะวังสวรรค์รู้สึกถึงแรงกดดันเมื่อเห็นการปรากฏตัวของภูตผีตนนี้
“ดังคาด เทพปีศาจจิตวิญญาณช่างชั่วร้ายนัก!” เจ้าวังสวรรค์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขากระจายไปทั่วทั้งหอคอยดวงตาสวรรค์
“เจตจำนงแห่งสวรรค์ไม่สามารถต่อต้าน!”
“สวรรค์มิอาจท้าทาย!”
“แม้เจ้าจะเป็นเทพปีศาจที่ปกครองโลกหล้า แต่ยุคของเจ้าจบไปนานแล้ว!”
“แม้พวกเราจะตาย พวกเราก็จะปกป้องเจตจำนงแห่งสวรรค์!”
“มาเถอะ กระตุ้นใช้งานหอคอยดวงตาสวรรค์อย่างถึงที่สุด!”
ผู้อมตะวังสวรรค์เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หอคอยดวงตาสวรรค์ส่องประกายขึ้นอีกครั้ง
ศีรษะข้างซ้ายของเทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปที่มันและคำราม
การเคลื่อนไหวของเทพปีศาจจิตวิญญาณรวดเร็วมาก มือหลายข้างของเขาคว้าหอคอยดวงตาสวรรค์เอาไว้อย่างแน่นหนา
มือจำนวนมากทับซ้อนกันมากขึ้นเรื่อยๆโดยมีหอคอยดวงตาสวรรค์อยู่ตรงกลาง
ผู้อมตะวังสวรรค์ไม่ละความพยายามขณะที่ประกายแสงจากหอคอยดวงตาสวรรค์แทรกตัวออกมาราวกับใบมีดอันแหลมคม
มือของเทพปีศาจจิตวิญญาณสั่นสะท้านขึ้นเล็กน้อย
เมื่อถึงจุดนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่สนใจหอคอยดวงตาสวรรค์อีกแต่เงยศีรษะทั้งสามและคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า
แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะสูงหลายพันเมตร แต่ท้องฟ้ายังสูงกว่า
ราวกับตระหนักถึงความโกรธของเทพปีศาจจิตวิญญาณ พายุฝนค่อยๆก่อตัวขึ้นจากบนท้องฟ้า
รางสังหรณ์ร้ายพุ่งเข้าเกาะกุมหัวใจของกลุ่มผู้อมตะ
“นี่…มันไม่ใช่ภัยพิบัติใหญ่!”
“มันคือหมื่นภัยพิบัติ!”
สมาชิกนิกายเงารู้สึกพูดไม่ออก
นอกเหนือจากภัยพิบัติใหญ่ยังมีหมื่นภัยพิบัติ
หมื่นภัยพิบัติเป็นภัยพิบัติของผู้อมตะระดับแปด หากสามารถผ่านหมื่นภัยพิบัติสามครั้ง พวกเขาจะบรรลุระดับเก้า
สวรรค์รู้ว่าภัยพิบัติใหญ่ไร้ประโยชน์ต่อหน้าเทพปีศาจจิตวิญญาณ ดังนั้นมันจึงส่งหมื่นภัยพิบัติลงมา
หมื่นภัยพิบัติ คุกพายุสายฟ้า!
“เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!”
หมื่นภัยพิบัติมาเร็วกว่าความคาดหมายของกลุ่มผู้อมตะ
สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาเลื้อยพันร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้ราวกับอสรพิษหรือมังกร
เทพปีศาจจิตวิญญาณคำรามด้วยความโกรธ ดวงตาทั้งหกของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
แขนทั้งพันข้างของเขาฉีกกระฉากพายุสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง
ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาได้อีก
ฉากตรงหน้าของพวกเราราวกับการแสดงเรื่องราวในตำนานอันน่าเหลือเชื่อ
หมื่นภัยพิบัติพุ่งเข้าโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น นั่นทำให้ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา ฟางหยวน และคนอื่นๆค่อนข้างปลอดภัย
“พลังอำนาจของหมื่นภัยพิบัติเหนือกว่าภัยพิบัติใหญ่มาก!”
“ร่างหลักของเราต้องทนได้!”
“แล้วค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา?”
“มันหลอมรวมไปถึงหกสิบส่วนแล้ว”
“หกสิบส่วน…แต่ภัยพิบัติกลับรุนแรงถึงเพียงนี้!”
สมาชิกนิกายเงากลายเป็นเงียบงัน
ศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาไม่ใช่วังสวรรค์หรือฟางหยวน แต่เป็นสวรรค์!
หากพวกเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สมาชิกนิกายเงาจะมีความมั่นใจ แต่เนื่องจากการปรากฏตัวของวังสวรรค์และฟางหยวน พวกเขาตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเกือบพังทลาย ก่อนหน้านี้พวกเขาถึงกับต้องกอบกู้มันด้วยการบูชายัญกองกำลังพันธมิตรผีดิบ
“เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์พังทลายไปแล้ว ร่างหลักของเราปรากฏตัวขึ้น ตอนนี้พวกเรากลายเป็นไร้ประโยชน์ไปอย่างสมบูรณ์”
“ถูกต้อง สิ่งที่พวกเราทำได้มีเพียงเสียสละตนเองเพื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด”
“แล้วคนพวกนั้น?”
“ทิ้งพวกเขาให้เป็นหน้าที่ของข้า” อิงอู๋เซี่ยกล่าว
ภัยพิบัติทวีความรุนแรงมากขึ้นขณะที่สมาชิกนิกายเงากลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเสียสละตนเองเพื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา
ตัวตนที่แท้จริงของสมาชิกนิกายเงาคือร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ! ดวงวิญญาณย่อยของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในร่างของพวกเขา!
ด้วยเหตุนี้นิกายเงาจึงต้องซ่อนตัวและดำเนินแผนการอยู่อย่างลับๆโดยไม่เปิดเผยตัว
นี่คือสาเหตุที่ผู้อมตะนิกายเงาเพิกเฉยต่อความตายและไม่สนใจการเสียสละ
กองกำลังขนาดใหญ่แท้จริงแล้วกลับเป็นคนๆเดียวกัน นั่นก็คือเทพปีศาจจิตวิญญาณ!
หลังจากพูดคุย สมาชิกนิกายเงารวมถึงเทพเจ็ดดาราและซ่งซื่อซิงได้เลือกที่จะเสียสละตนเองเช่นเดียวกับม่านเยี่ยนซื่อ
มีเพียงสองคนที่เหลืออยู่
หนึ่งคืออิงอู๋เซี่ย เขามีกายาแห่งความฝัน การบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับทุกสองชั่วโมง ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าและเป็นกำลังสำคัญของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
อีกหนึ่งคือผีดิบอมตะโป้ชิง เขาเป็นหนึ่งในร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเช่นกัน แต่มันเป็นเพียงร่างกายของเขาเท่านั้น ดวงวิญญาณที่อยู่ภายในไม่ใช่โป้ชิงแต่เป็นโม่เหยา
ดวงวิญญาณของโม่เหยาไม่สามารถช่วยเหลือค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาแม้นางจะเสียสละตน นางสามารถเป็นหนึ่งในวัสดุในการหลอมรวมซึ่งไม่คุ้มค่าที่นางจะทำ ดังนั้นนางจึงถูกทิ้งไว้ข้างหลังกับอิงอู๋เซี่ย
ปัจจุบันเทพปีศาจจิตวิญญาณกำลังปราบปรามหมื่นภัยพิบัติคุกพายุสายฟ้าและเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์
ผีดิบอมตะโป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยไม่มีสิ่งใดต้องกังวล ดังนั้นพวกเขาจึงพุ่งเข้าโจมตีกลุ่มของฟางหยวน
ฟางหยวนกับคนอื่นๆไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาและทำได้เพียงล่าถอย
แต่ภายใต้ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา พวกเขาจะหลบหนีไปที่ใด
โป้ชิงโบกมือและส่งดาบแสงพุ่งเข้าตัดศีรษะของเทพธิดาหลี่ซานออกจากร่างในเสี้ยวพริบตา
เลือดพุ่งออกมาจากลำคอของนางขณะที่ศีรษะกลิ้งไปบนพื้น
ไม่สามารถต้านทาน!
แต่ในช่วงเวลาสำคัญไท่เป่ยหยุนเฉิงยังสามารถกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า
เทพธิดาหลี่ซานกลับสู่สภาพเดิม นางยกมือขึ้นสัมผัสลำคอและศีรษะของนางด้วยความหวาดกลัว
โป้ชิงหัวเราะเย้ยหยัน “เพียงวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาระดับหกจะหยุดข้าได้อย่างไร?”
เป็นเพียงเวลานี้ที่ดวงตาของเทพธิดาหลี่ซานพลันเบิกกว้างขึ้น ดาบพลังปราณระเบิดออกมาจากร่างของนางและทำให้นางกลายเป็นเศษเนื้อ
“ท่านป้า!” ไห่ลั่วหลันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะพุ่งเข้าโจมตีโป้ชิง
อิงอู๋เซี่ยเข้ามาปิดกั้นฟางหยวน
เขาจ้องมองฟางหยวนอย่างตั้งใจ “ฟางหยวน เจ้าสามารถหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน น่าสนใจมาก แต่ตอนนี้การบ่มเพาะของข้าบรรลุระดับแปดเรียบร้อยแล้ว ลองดูว่าเจ้ายังจะสามารถหลบหนีได้อีกหรือไม่?”
“เจ้ารู้จักชื่อของข้างั้นหรือ?” ฟางหยวนรู้สึกถึงความผิดปกติ
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเป็นปีศาจต่างโลก เจ้ายังมีประโยชน์ต่อนิกายเงา ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า อย่าคิดใช้วิญญาณกาลเวลา วิญญาณอมตะระดับหกดวงนี้ถูกอนุมานไว้แล้วโดยม่านเยี่ยนซื่อ ตอนนี้มันยังใช้งานไม่ได้ถูกต้องหรือไม่?” อิงอู๋เซี่ยเดินเข้าไปหาฟางหยวนด้วยความมั่นใจ
“อันใด!?” ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง
บทที่ 1012 ฆ่าทุกคน
แปลโดย iPAT
หนึ่งแสนปีก่อน
ภาคใต้ ภูเขาซวนฉี
มันเป็นยามค่ำคืนที่มืดมิด สายลมคำราม สายฟ้ากรีดร้องไปทั่วสนามรบ
ทางขึ้นเขาซวนฉีเต็มไปด้วยซากศพของผู้ใช้วิญญาณ
ฝกตกหนักแต่ไม่สามารถชะล้างกลิ่นคาวเลือด
การต่อสู้พึ่งสิ้นสุดลง เหลือเพียงสองคนที่ยังยืนอยู่แต่ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะเห็นได้ชัดเจน
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เด็กหนุ่มหัวเราะขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยดวงตาสีแดงเลือด เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามด้วยความกระหายเลือด
ผู้ใช้วิญญาณอีกคนเป็นชายชรา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป เขาวิ่งหนีแต่สะดุดล้มลงบนพื้นโคลน
ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าผู้ใช้วิญญาณชราและจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา
อย่างไรก็ตามสายตาของผู้ใช้วิญญาณชรากลับไม่ปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัวแต่มันเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อและความโกรธ
ชายชราตะโกน “เพราะเหตุใด? ข้าเป็นปู่ของเจ้า ข้าชุบเลี้ยงเจ้ามา ข้าสอนทุกสิ่งให้แก่เจ้า ความสำเร็จของเจ้าในวันนี้เป็นเพราะการเลี้ยงดูของตระกูล! เหตุใดเจ้าจึงโจมตีพวกเรา? เหตุใดเจ้าจึงตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชัง? เหตุใด? เพราะเหตุใด!?”
เผชิญหน้ากับการซักถามของชายชรา ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มเผยรอยยิ้มบาง “เพราะเหตุใดงั้นหรือ? ข้าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้จริงๆ อืม…หากจะหาเหตุผล อาจเป็นเพราะข้ารำคาญ”
“รำคาญ!?”
“ถูกต้อง…ตัวอย่างเช่น ตระกูลของเราอ่อนแอกว่ากองกำลังอื่นและต้องอดทนอยู่อย่างเงียบๆ พวกเราต้องเคารพผู้อาวุโสและเอ็นดูผู้เยาว์ พวกเราควรสุภาพ ซื่อสัตย์ และไม่นินทาผู้อาวุโสลับหลัง ตระกูลพึ่งพาข้าในการปกป้องชื่อเสียง ข้าต้องคิดถึงตระกูล นั่นจะทำให้ข้ากลายเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม ทุกอย่างมันน่ารำคาญ! ตั้งแต่เด็ก ข้ารู้สึกรำคาญ ข้าเคยคิดว่าข้าสามารถอดทน แต่ในที่สุดข้าก็ทนไม่ได้” ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มกล่าวและเผยรอยยิ้มกว้าง
“แค่นี้?” ผู้ใช้วิญญาณชราลุกขึ้นด้วยความโกรธ
เขาจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “เหตุใดเจ้าจึงกลายเป็นคนเช่นนี้? เจ้าคิดสิ่งใดอยู่? ข้าช่างตาบอดนักที่เลี้ยงดูเจ้ามาหลายปี ฮ่าฮ่า ข้ากระทั่งต้องการส่งมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับเจ้า!”
ผู้ใช้วิญญาณชราตำหนิและหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่สามารถควบคุม
“พอแล้ว!” ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มรู้สึกรำคาญที่เห็นชายชราร่ำไห้
เขายกมือขวาขึ้น
“ฉับ!”
ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ร่างของผู้ใช้วิญญาณชราถูกแยกออกเป็นสองส่วน เลือดทะลักออกมาพร้อมกับลำไส้
ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสงบลงและหยุดเคลื่อนไหว
เขาสวมชุดคลุมดำและยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนราวกับรูปปั้น
เขาก้มศีรษะมองไปที่กองซากศพ ความทรงจำในอดีตปรากฏขึ้นในใจของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อเขายังเด็ก ปู่ของเขาเคยพาเขาไปขี่ม้าและเล่นว่าว เมื่อพรสวรรค์ของเขาถูกเปิดเผย ปู่ของเขาเผยรอยยิ้มมีความสุข เมื่อเขากลายเป็นผู้ใช้วิญญาณ ปู่ของเขาก็สั่งสอนเขาด้วยตนเอง เขายังสอนเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับตระกูล
เวลาค่อยๆผ่านไป
ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาและหัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
เขาเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้าและอ้าแขนกว้าง
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขาแต่ใบหน้าของเขากลับแสดงออกด้วยความพึงพอใจ
เขารู้สึกราวกับตนเองกำลังจมน้ำแต่ทันใดนั้นเขากลับสามารถทะยานขึ้นมาเหนือน้ำและพยายามดิ้นรนว่ายเข้าสู่ฝั่ง
เขาสูดหายใจลึก กลิ่นคาวเลือดราวกับความโกรธเกรี้ยวของผู้คนที่พุ่งเข้าจู่โจมเขา
แต่เขากลับรู้สึกสดชื่นมาก
“แม้ข้าจะเสียใจ…แต่ข้าก็ได้รับอิสรภาพ ฮ่าฮ่าฮ่า หากข้ารู้เช่นนี้ ข้าคงฆ่าพวกเขาไปนานแล้ว สิ่งที่น่ารำคาญเหล่านี้ควรถูกสังหารไปนานแล้ว จากนี้ไปข้าจะฆ่าทุกคนที่ทำให้ข้ารำคาญ!”
ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มตะโกนท่ามกลางสายฝนด้วยความตื่นเต้น
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าแลบลั่นและส่องสะท้อนภาพของชายผู้หนึ่งที่กำลังมีความสุข
หนึ่งแสนปีต่อมา
สายฟ้าแลบลั่นและส่องสะท้อนใบหน้าของชายผู้หนึ่งแต่ตอนนี้เขาต่างไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดสูงหลายพันเมตรที่มีสามเศียรพันกร
“เสียงดัง น่ารำคาญ พอแล้ว!” เทพปีศาจจิตวิญญาณคำราม
“บึม!”
เขาใช้มือทั้งพันฉีกกระชากพายุสายฟ้าที่ม้วนตัวอยู่รอบๆออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เขาทำลายคุกพายุสายฟ้า!
สายฟ้าหายไปอย่างสมบูรณ์ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของเขา
กระทั่งหมื่นภัยพิบัติก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขา
พลังอำนาจของเทพปีศาจถูกแสดงออกมาอย่างเต็มที่
ทุกคนที่เห็นฉากเหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายของฟางหยวนหรือวังสวรรค์ พวกเขาต่างตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์
“เราประสบความสำเร็จหรือไม่?” โป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยแสดงออกอย่างมีความสุข
แต่ทันใดนั้นท้องฟ้ากลับมืดลงอีกครั้ง เมฆสีเทาลอยเข้ามารวมกลุ่มกันเหนือศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
หมื่นภัยพิบัติครั้งที่สองกำลังสะสมพลังงาน!
การแสดงออกของโป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนเป็นมืดมน
ผู้อมตะวังสวรรค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ดวงตาทั้งหกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเผยให้เห็นว่าเขากำลังครุ่นคิด
เขายกแขนหลายร้อยข้างขึ้นก่อนจะแทงลงไปยังกลุ่มเมฆสีดำที่ลอยอยู่ระดับเอวของเขา
เมฆสีดำเหล่านี้เกิดจากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา เมื่อมันได้รับความช่วยเหลือจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันจึงสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง
“โอ้ ไม่ เขากำลังเร่งการหลอมรวม!”
“แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเขาพยายามหลอมรวมสิ่งใดแต่เราจะปล่อยให้เขาประสบความสำเร็จไม่ได้!”
“ทุกคนร่วมมือกับข้า!”
ภายใต้การนำของเจ้าวังสวรรค์ หอคอยดวงตาสวรรค์บินออกไปราวกับภูตผีก่อนจะพุ่งชนศีรษะข้างขวาของเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างแรง
เทพปีศาจจิตวิญญาณคำรามด้วยความโกรธและใช้มือนับร้อยคว้าหอคอยดวงตาสวรรค์
“อีกครั้ง!” เจ้าวังตะโกน
ในช่วงเวลาสำคัญหอคอยดวงตาสวรรค์เปลี่ยนเป็นภูตผีพุ่งออกไปทำให้การโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณพลาดเป้าหมาย
ความสามารถในการเปลี่ยนเป็นภูตผีเป็นหนึ่งในความสามารถของหอคอยดวงตาสวรรค์ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระตุ้นใช้งานสิ่งนี้ มันต้องใช้ความคิดและสมาธิเช่นเดียวกันการกระตุ้นการโจมตีของสนามรบแห่งความโกลาหล
ผู้อมตะวังสวรรค์หกคนที่ร่วมมือกันกระตุ้นใช้ความสามารถของหอคอยดวงตาสวรรค์หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า
หอคอยดวงตาสวรรค์ลอยอยู่เหนือศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณในรูปแบบภูตผี
อีกด้านหนึ่ง แขนหลายร้อยข้างของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นแห้งเหี่ยวขณะที่ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาที่ได้รับการสนับสนุนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เมฆสีดำที่กระจายตัวอยู่รอบๆลอยเข้ามารวมกลุ่มกันและมีแสงสิบสี่สีส่องประกายออกมาจากจุดศูนย์กลาง
เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าวังเต็มไปด้วยความกังวลและเร่งออกคำสั่ง “ตัดแขนเหล่านั้น!”
หอคอยดวงตาสวรรค์พุ่งไปด้วยความเร็วสูงก่อนจะตัดแขนของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่เชื่อมต่อกับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาออก
“อิงอู๋เซี่ย ไปจัดการผู้อมตะวังสวรรค์!” โป้ชิงตะโกนเรียก
มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับโป้ชิงที่จะจัดการกลุ่มของฟางหยวน
แต่เหตุการณ์ต่างๆทำให้เขาต้องหยุดชะงักตลอดเวลา
อิงอู๋เซี่ยกัดฟันแน่น เขาไม่ต้องการจากไปในเวลานี้ “ขอเวลาให้ข้าส่งฟางหยวนเข้านอนสักครู่!”
หลังกล่าวจบคำ อิงอู๋เซี่ยกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดนำวิญญาณสู่ความฝันทันที
ฟางหยวนไม่สามารถหลบและถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน
บนเกาะกลางทะเลสาบ เสียงพิณดังขึ้น
ฟางหยวนพบเทพอมตะกลุ่มดาวอีกครั้ง
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
คลี่คลายความฝัน!
ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขาแต่อาณาจักรแห่งความฝันกลับมั่นคงและเกิดระลอกคลื่นโปร่งใสกระจายออกไปเท่านั้น
หลังจากทั้งหมดท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับหกขณะที่ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด
มันมีความแตกต่างมากเกินไป
หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
เทพอมตะกลุ่มดาวเผยรอยยิ้มให้กับฟางหยวนและร้องเพลงให้เขาฟัง
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น เขารู้ว่าเขาแพ้แล้ว
ด้านนอก หอคอยดวงตาสวรรค์หลบการโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณยังส่งมืออีกนับร้อยลงไปที่ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา
หอคอยดวงตาสวรรค์เตรียมโจมตีอีกครั้งแต่ดวงตาคู่หนึ่งของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลับเพ่งมองไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์และทำให้มันไม่สามารถขยับเขยื้อน
“ฮ่าฮ่าฮ่า เหตุใดครั้งนี้ไม่หลบหนีออกมาอีก?” อิงอู๋เซี่ยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ
“ฟางหยวน!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันตะโกนเรียก
แต่ฟางหยวนยังหลับสนิทและไม่ตื่นขึ้น
โป้ชิงกำลังจะสังหารไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันแต่ในจังหวะนี้แผ่นดินกลับสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง
กลุ่มผู้อมตะถูกสูบลงไปใต้พื้นดินและถูกผนึกการเคลื่อนไหว
ภัยพิบัติใหญ่ คุกปฐพี!
โป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่านอกจากหมื่นภัยพิบัติที่กำลังโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณยังมีภัยพิบัติใหญ่ซุ่มโจมตีพวกเขาอยู่ด้วย
“เหตุใดพวกเขาไม่ถูกผนึก?” โป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยประหลาดใจมาก
หลังจากตกลงมา ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันกลับสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ด้านไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน ทั้งสองทั้งตกตะลึงและรู้สึกสนุกสนาน
พวกเขาคว้าร่างของฟางหยวนและล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขที่สุดก็คือหลังจากกลุ่มเมฆสีดำรวมตัวกัน พื้นที่ต้องห้ามก็สูญสลายไป เมื่อฟางหยวนตื่นขึ้น พวกเขาจะสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้
แต่ฟางหยวนยังหลับสนิท
ดวงตาของผีดิบอมตะโป้ชิงส่องประกายด้วยเจตนาสังหาร เขากำลังจะใช้ท่าไม้ตายอมตะแต่เขากลับรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขากำลังถูกสูบออกไป
ปรากฏว่าภัยพิบัติใหญ่คุกปฐพีไม่เพียงสูบร่างกายของพวกเขาลงไป มันยังส่งผลกระทบต่อความคิด เจตจำนง และความรู้สึกของเป้าหมายอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้โป้ชิงจึงทำได้เพียงมองดูกลุ่มของไห่ลั่วหลันหลบหนีจากใต้จมูกของเขาไปเท่านั้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น