ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1006-1011

 บทที่ 1006 คุณพ่อแข่งขันเพื่อการกุศล

Ink Stone_Fantasy

ส่งปลาทั้งสี่ตัวให้บัตเลอร์ไปแล้ว แบ่งตามที่ฉินสือโอวเคยกำชับไว้อยู่เสมอๆ เมื่อก่อนหน้านี้ “ห้ามยอมรับกับคนนอกเด็ดขาดว่าปลาพวกนี้เป็นปลาที่จับมาจากฟาร์มปลาของฉัน ห้ามทำเด็ดขาดเลยนะ”


บัตเลอร์ใช้สายตาอย่างคนโง่เซ่อมองไปที่เขา แล้วพูดว่า “นายล้อฉันเล่นหรือเปล่า? ถ้าไม่ติดแบรนด์ต้าฉิน แล้วจะขายได้ราคาสูงได้ยังไง? จะเก็งกำไรได้ยังไงกันล่ะ?”


ฉินสือโอวเล่าเรื่องเทซึกะ โกดะให้เขาฟังคร่าวๆ แล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า “เขาทำให้ฉันกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากให้เขารู้ว่าฟาร์มปลาของฉันเริ่มส่งออกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือแล้ว”


บัตเลอร์จึงพูดกับเขาอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจ “มันเกี่ยวอะไรกันด้วยเหรอ? เอาล่ะ ฟาร์มปลาของนายมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ คราวนี้มีคนอยากมาซื้อปลาของนาย แต่นายไม่อยากขายใช่ไหม? แล้วยังไงต่อล่ะ? นายปฏิเสธไปก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”


ฉินสือโอวถอนหายใจพูดว่า “นายไม่รู้หรอก เพื่อน เทซึกะ โกดะแสดงตัวเป็นมิตรที่ดีกับฉันมากเกินไป ฉันลำบากใจที่จะปฏิเสธเขา”


บัตเลอร์กล่าวว่า “ไม่ ไม่ ฉิน ธุรกิจก็คือธุรกิจ แล้วธุรกิจก็เป็นเพียงแค่ธุรกิจ นายต้องทำเรื่องนี้ให้มันชัดเจน ดังนั้น ถ้าเขาส่งของขวัญมาให้นาย ถ้าอย่างนั้นนายก็แค่ส่งของขวัญกลับไปให้เขา เขามีไมตรีจิตให้นาย นายก็มีไมตรีจิตกลับไปให้เขา เท่านี้ก็พอแล้ว!”


เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวยังอยากจะพูดอะไรสักอย่าง บัตเลอร์ก็ส่ายหัวแล้วพูดต่ออีกว่า “น้องชาย นายต้องเข้าใจเรื่องจริงอย่างแจ่มแจ้งเสียก่อน เทซึกะ โกดะเป็นนักธุรกิจที่นายรู้จัก พวกนายมีความสัมพันธ์ต่อกันเพียงเท่านี้!”


ฉินสือโอวขมวดคิ้วเข้าหากัน ใช่แล้ว เขากับเทซึกะ โกดะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันแบบนั้นถึงจะถูก เพราะแนวคิดเรื่องน้ำใจที่มีต่อผู้อื่นของชาวจีนเป็นเหตุ เทซึกะ โกดะมีน้ำใจไมตรีกับเขาสารพัดอย่าง ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจที่ไม่ได้ช่วยอะไรอีกฝ่าย


แท้จริงแล้วการที่เขาทำเช่นนี้ก็เสแสร้งมากพอแล้ว ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือในฟาร์มเพาะเลี้ยงที่ญี่ปุ่นเขาก็เป็นคนทำลายมันทั้งนั้น ถ้าเทซึกะ โกดะรู้เรื่องนี้เข้า ก็คงมีความคิดที่อยากจะฆ่าเขาให้ตาย


พอบัตเลอร์พูดอย่างนี้ ฉินสือโอวก็รู้สำนึกได้ในที่สุด ใช่แล้ว ธุรกิจก็เป็นแค่ธุรกิจ เขาจะคิดมากไปทำไมกัน?


ส่งบัตเลอร์กับปลาทูน่าอีกสี่ตัวเสร็จแล้ว เมื่อฉินสือโอวก็กลับเข้ามา เหมาเหว่ยหลงมาหาเขาแล้วบอกว่า “ฉินโซ่ว พวกเราเองก็เตรียมตัวจะกลับกันแล้ว มาอยู่กับแกที่นี่นานพอแล้ว คาดว่าที่ฟาร์มของพวกเราก็น่าจะยุ่งวุ่นวายพอสมควรแล้วแหละ ถึงเวลาที่จะต้องกลับไปจัดการแล้ว”


ตอนนี้ไม่มีความกดดันทางด้านการเงิน ฉินสือโอวชอบวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับพวกเพื่อนๆ จริงๆ เมื่อเหมาเหว่ยหลงจะกลับเขาก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่เล็กน้อย ถึงการที่พวกเขาอยู่ที่นี่จะมีปัญหาเรื่องความแออัด แต่บรรยากาศในบ้านกลับดีไม่น้อย


เขารั้งให้อยู่ต่ออีกสักพัก เหมาเหว่ยหลงเลยอธิบายว่า “ถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเพาะปลูกพืชพันธุ์การเกษตรในฟาร์มแล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ฉันทำเรื่องขอกู้เงินไปจำนวนหนึ่ง เพิ่งจะเข้าบัญชีเมื่อสองวันก่อน ปีนี้ฉันวางแผนว่าจะเลี้ยงโคเนื้อสักฝูงหนึ่ง ถ้ามีเวลาว่างก็มาช่วยฉันดูหน่อยไหมล่ะ?”


ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉินสือโอวก็ไม่มีเหตุผลที่จะรั้งเขาให้อยู่ต่อแล้ว เขาพูดอย่างสบายๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ พวกแกกลับไปก่อน ก่อนจะซื้อวัวค่อยโทรมาหาฉัน ฉันจะไปช่วยแกดูเอง จะได้ไม่ต้องถูกหลอก แบบนั้นมันไม่ใช่แค่น่าขายหน้าอย่างเดียว ถ้าเสียเงินสิเรื่องใหญ่”


เหมาเหว่ยหลงยิ้มพร้อมกับทุบเขาเข้าให้หนึ่งหมัด บอกว่าแกช่วยพูดกับฉันให้มันน่าฟังหน่อยได้ไหม ต่อจากนั้นก็กลับไปเก็บข้าวของ


บอกว่าจะกลับก็กลับ เหมาเหว่ยหลงจัดการเรื่องอย่างรวดเร็ว ช่วงบ่ายเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ซื้อตั๋วเครื่องบินรอบเช้าของวันถัดไปไว้แล้ว


ฉินสือโอวไปส่งเหมาเหว่ยหลง อารมณ์ของเขาเศร้าซึมอยู่พักหนึ่ง เขามองดูฟาร์มปลาแล้วก็รู้สึกว่าคนที่เคยอยู่ที่นี่หายไปหลายคนในเวลาแค่แป๊บเดียว


วินนี่อุ้มเสี่ยวเถียนกวาเข้ามาดูเขา เธอพูดว่า “เป็นอะไรไปคะ? ทำไมถึงดูเศร้าขนาดนี้?”


ฉินสือโอวถอนหายใจออก “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่คนอย่างผมทนรับเหตุการณ์แบบนี้ไม่ไหวจริงๆ”


วินนี่ร้องเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจแล้วพูดว่า “ฉันว่าคุณอดทนกับช่วงเวลาที่ไม่มีคนให้ออกไปเที่ยวเล่นด้วยไม่ไหวมากกว่า เอาล่ะ จะบอกข่าวดีให้คุณฟังหนึ่งอย่างแล้วกันนะคะ เมื่อกี้ตอนที่คุณไปส่งพวกโคโกโร่ที่สนามบิน โรงพยาบาลแม่และเด็กซานตามาเรียโทรศัพท์มาบอกว่าเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดกับรัฐนิวบรันสวิกจะจัดการแข่งขันเพื่อการกุศล เป็นการแข่งขันว่ายน้ำข้ามช่องแคบประจำฤดูใบไม้ผลิ เลยมาเชิญพวกเราให้เข้าร่วมด้วย”


ฉินสือโอวจึงพูดกับเธอว่า “พวกเราจะไปแข่งอะไรพวกนี้ทำไมล่ะครับ? เพื่อบริจาคเงินเหรอ?”


วินนี่เลยอธิบายว่า “ไม่ใช่การบริจาคเงินง่ายๆ อย่างนั้นนะคะ แน่นอนล่ะว่าจุดประสงค์ในการรวบรวมเงินเพื่อการกุศล แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการมีส่วนร่วมนะคะ ในฤดูใบไม้ผลิของทุกๆ ปีช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์จะจัดการแข่งขันว่ายน้ำประจำฤดูใบไม้ผลิ แต่ละปีจะมีหัวข้อหลักที่แตกต่างกันออกไป ปีนี้เป็นการรวบรวมเงินเพื่อนำไปบริจาคให้เด็กแรกเกิดที่มีอาการเจ็บป่วย ดังนั้นจึงได้เชิญพ่อแม่หลายคนให้มาเข้าร่วมการแข่งขันด้วย”


ความคิดที่ว่าดูท่าจะไม่ดีปรากฏขึ้นในจิตใจของฉินสือโอว เขาถามเธอว่า “เชิญให้ผมไป ไม่ใช่เพื่อให้ไปบริจาคเงิน แต่ให้ไปว่ายน้ำใช่ไหม?”


วินนี่ยักไหล่ แล้วถามเขากลับไปว่า “คุณไม่สนใจเหรอคะ?”


ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ “ไม่สนใจก็ต้องไปอยู่ดี ถึงยังไงคุณก็ลงชื่อให้ผมแล้ว”


วินนี่เบะปากด้วยความโกรธเคือง พูดกับเขาว่า “ใครบอกคะว่าฉันลงชื่อให้คุณแล้ว?”


ฉินสือโอวเข้าไปบีบแก้มเธอหนึ่งที แล้วพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “ไม่ต้องแกล้งทำแล้วล่ะ จากที่ผมรู้จักหม่ามี๊ของลูกสาวตัวเอง ตอนนี้ก็น่าจะกำลังหลอกคุณพ่อของเธอเล่นอยู่ ใช่ไหมล่ะครับ?”


แค่แป๊บเดียววินนี่ก็ยิ้มออกมา ดวงตาทั้งสองข้างโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เธอหัวเราะคิกคัก พร้อมกับพูดว่า “เอาล่ะ คุณรู้จักฉันดีจริงๆ ฉันยอมรับว่าที่จริงฉันลงชื่อให้คุณไปแล้ว”


ผ่านไปสักพัก บูลก็วิ่งเข้ามาหาอย่างคึกคักดีใจ แล้วตะโกนว่า “กัปตัน ผมจะเรียนรู้จากคุณ ผมก็ลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำครั้งใหญ่ประจำฤดูใบไม้ผลิของช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์เหมือนกัน ถึงตอนนั้นคุณต้องปรานีผมด้วยนะ อย่าชนะผมไปไกลนัก”


ฉินสือโอวกล่าวว่า “นายก็สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเหมือนกันเหรอ? โอ้ พ่อบูล นายช่างกระตือรือร้นจริงๆ เลยนะ”


บูลยิ้มซื่อๆ พร้อมกับพูดว่า “สิ่งที่ผมทำมันคือการตอบรับการขอความร่วมมือของผู้นำไม่ใช่เหรอครับ”


ฉินสือโอวพูดอย่างตกตะลึงว่า “ใครเป็นคนสอนประโยคนี้ให้นายกัน?”


บูลพูดอย่างแน่นอนว่า “ผมดูช่องทีวีภาษาจีนที่บ้านของคุณทุกวันๆ ประโยคนี้ผมเรียนรู้มาตั้งนานแล้ว!”


“เอาล่ะ นับว่านายหัวแหลมนะ” ฉินสือโอวตบไหล่ของเขาแปะๆ พร้อมกับพูดว่า “ทำได้ดีมาก ผู้นำของนายเห็นมันแล้ว ถ้ามีโอกาสฉันจะมอบภาระหนักให้นายอย่างแน่นอน”


ช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์ตั้งอยู่ระหว่างรัฐนิวบรันสวิกกับเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี ที่นี่จะจัดการแข่งขันว่ายน้ำเพื่อการกุศลประจำฤดูใบไม้ผลิขึ้นหนึ่งครั้ง ปีที่แล้วเป็นการจัดงานเพื่อรวบรวมเงินเพื่อนำไปบริจาคให้กับผู้ป่วยโรคเอชไอวีและเรียกร้องให้ทุกๆ คนปฏิบัติต่อผู้ป่วยโรคเอชไอวีด้วยจิตใจที่เป็นปกติ ส่วนหัวข้อหลักในปีนี้ก็คือ ‘ใส่ใจสุขภาพของลูกรัก ให้ทูตแห่งสวรรค์ตัวน้อยได้กางปีกบิน’


ฉินสือโอวเข้าไปค้นหาข่าวที่เกี่ยวข้องจากอินเทอร์เน็ต การแข่งขันจะเปิดตัวจากทางฝั่งแหลมจอริเมนในรัฐนิวบรันสวิก และขึ้นฝั่งที่บอร์เดนคาร์ลตันบนเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด ระยะทางทั้งหมดราวๆ 15 กิโลเมตร


แชมป์ของปีที่แล้วคือผู้ป่วยโรคเอชไอวีหญิงคนหนึ่งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ชื่อว่าซาราคลิน สาวน้อยผู้กล้าหาญคนนี้ใช้เวลาในการว่ายน้ำข้ามฝั่งเพียงสี่ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ในตอนนั้นเงินบริจาคบรรลุถึง 142,000 ดอลลาร์แคนาดา ในจำนวนนั้นมีเงินบริจาคภายใต้ชื่อของซาราคลิน 1,600 ดอลลาร์แคนาดา


ในอดีตหลายๆ ครั้งผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่ได้รับเชิญจะมีอายุค่อนข้างมาก อายุน้อยที่สุดเพียงแค่สี่สิบปี ส่วนผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่มีอายุมากที่สุดก็คือผู้สูงอายุวัยเจ็ดสิบปีท่านหนึ่ง การแข่งขันปีนี้จะทรหดยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากทุกคนที่ได้รับเชิญมาล้วนแต่เป็นผู้ชายที่เพิ่งจะกลายเป็นพ่อคน ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบและมีอายุมากสุดสี่สิบปี


หลังจากได้ทำความรู้จักการแข่งขันเพื่อการกุศลในครั้งนี้แล้ว ฉินสือโอวก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา เนื่องจากแชมป์ของการแข่งจะได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อรางวัลการกุศล เขาจึงอยากชนะเพื่อลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นแชมป์ให้ได้


บทที่ 1007 เพื่อเป็นผู้ชนะ

Ink Stone_Fantasy

เมื่อมีจุดมุ่งหมาย ก็ต้องขยันฝึกซ้อม


ถึงแม้ว่าฉินสือโอวจะค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้เป็นแชมป์ แต่เขาก็มีแรงกดดันเป็นอย่างมาก เนื่องจากในปีนี้ยังมีคุณพ่อที่เข้าร่วมการแข่งขันที่เป็นนักกีฬามืออาชีพอีกสองคน


ทั้งสองคนนี้มีหนึ่งคนที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำมืออาชีพแรนส์ เควิน เขาเคยตัวแทนของแคนาดาเข้าร่วมโอลิมปิกเอเธนส์ปี 2004 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คว้าเหรียญรางวัลมา แต่ศักยภาพของเขาเมื่อเทียบกันกับนักกีฬาสมัครเล่นก็ย่อมต้องเก่งกาจกว่ากันอยู่แล้ว


ส่วนอีกคนชื่อว่าเซลต้า บรูคส์ เป็นนักกีฬาพายเรือคายัคของแคนาดา เคยเข้าร่วมการแข่งขันพายเรือคายัค ทักษะการว่ายน้ำต้องไม่แย่อยู่แล้ว


ที่ดีหน่อยก็คือ เซลต้าไม่ได้ฝึกซ้อมว่ายน้ำมาโดยเฉพาะ อีกทั้งแรนส์ที่ฝึกซ้อมการว่ายน้ำโดยเฉพาะก็มีอายุค่อนข้างเยอะแล้ว ตอนที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเอเธนส์ก็มีอายุมากกว่าสามสิบปีแล้ว และตอนนี้เขาก็อายุมากกว่าสี่สิบปีแล้ว


เอาชนะลุงๆ พวกนี้ ฉินสือโอวคิดว่าเขายังเอาอยู่


การแข่งขันจะถูกจัดขึ้นในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม ยังมีเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ ฉินสือโอวต้องรีบฝึกซ้อมแล้ว


ในวันแบบนี้มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือยังหนาวเย็นอยู่มาก เพื่อลูกสาวฉินสือโอวเองก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่ เขาเรียกพวกชาวประมงให้ไปฝึกซ้อมพร้อมกันกับเขา อันดับแรกจะวางแผนระยะทางสิบห้ากิโลเมตรโดยการนั่งเรือยอชต์


สิบห้ากิโลเมตรบนกระดาษดูไปแล้วก็เป็นเพียงคำไม่กี่คำ แต่ปฏิกิริยาตอบสนองเมื่ออยู่บนผิวทะเล ก็จะเป็นระยะทางที่ไกลมากๆๆๆ…


หลังออกจากท่าเรือไปได้สิบห้ากิโลเมตร ฉินสือโอวหันกลับไปมองท่าเรือ ตอนนี้ก็ไกลมากๆ แล้ว เขาพูดอย่างตกตะลึงว่า “บ้าแล้ว สิบห้ากิโลเมตรมันไกลขนาดนี้เลยเหรอ?!”


ชาร์คและคนอื่นๆ พากันไหวไหล่ แล้วปลอบเขาว่า “นี่มันแค่ไม่เท่าไรเองครับ ทุกๆ ปีก็มีหลายคนที่สามารถทำการแข่งขันเพื่อการกุศลได้สำเร็จ ปีที่แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นใช้เวลาแค่สี่ชั่วโมงครึ่งเองนะ”


พอพูดจบ ซีมอนสเตอร์ก็ยกนิ้วโป้งให้ด้วยความเลื่อมใสพร้อมกับพูดว่า “เธอน่านับถือจริงๆ ภายใต้อุณหภูมิเท่านี้ใช้เวลาแค่สี่ชั่วโมงครึ่งก็สามารถว่ายน้ำไปจนสุดระยะทางการแข่งขันได้สำเร็จ ถ้าเป็นผู้ชาย ก็น่าจะใช้ความเร็วประมาณเท่านี้หรือเปล่า?”


บูลพูดอย่างหยิ่งยโสว่า “พวกนายคอยดูเถอะ เพื่อนๆ เอ๊ย ปีนี้ฉันจะต้องทำลายสถิติของเธอได้แน่ๆ ก็แค่สี่ชั่วโมงครึ่ง ฉันจะพยายามทำให้ได้ภายในสี่ชั่วโมง!”


ชาร์คก็พูดกับเขาอย่างเหยียดหยามว่า “ทำอะไรของแก แค่ทำลายสถิติของเด็กผู้หญิง แกจำเป็นต้องพูดจาอวดดีขนาดนี้เลยเหรอ ทำอย่างกับทำลายสถิติของเฟล็ปส์ได้ ไม่กลัวขายหน้าคนเขาหรือไง?”


แลนซ์จึงช่วยพูดเพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับบูลว่า “เอาล่ะ เพื่อนๆ ที่จริงแล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นฝึกซ้อมไตรกีฬาคนเหล็กทุกวันเลยนะ การว่ายน้ำระยะทางสิบห้ากิโลเมตรสำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย”


ฉินสือโอวอยากถอดเสื้อผ้าออก แต่ปรากฏว่าเมื่อมีลมหนาวพัดมา แม่งเอ๊ย โคตรหนาวเลย! เขาเกิดอาการตัวสั่นขึ้นมาจึงเผลอกอดแขนเอาไว้ด้วยจิตใต้สำนึก ทว่าหลังจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นสายตาประหลาดๆ ของชาวประมงทั้งกลุ่ม จึงรีบปล่อยแขนทั้งสองข้าง กัดฟันพูดในใจว่าครั้งนี้ฉันจะทำเพื่อลูกสาวของฉันอย่างสุดชีวิต!


กลับมาถึงท่าเรือ ฉินสือโอวก็เริ่มอบอุ่นร่างกาย การว่ายน้ำระยะไกลภายใต้อุณหภูมิเท่านี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย ทุกๆ ปีจะมีคนที่กล้ามเนื้อเป็นตะคริวในการแข่งขันเพื่อการกุศล การอบอุ่นร่างกายให้ดีพร้อมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก


พ่อฉินแม่ฉินเองก็รีบมาหา พอได้ยินว่าเขาต้องว่ายน้ำในทะเลในช่วงเวลานี้ ทั้งสองคนก็พูดกับฉินสือโอวด้วยความรักและสงสารว่า “แกจะลงน้ำจริงๆ เหรอ? นี่มันหนาวเกินไปนะ หรือจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันดี?”


ฉินสือโอวส่ายหัวพูดว่า “ทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด อย่างแรก ผมจะทำเรื่องน่าขายหน้าแบบนั้นไม่ได้ แล้วอีกอย่างคนที่ไปเข้าร่วมการแข่งขันในแต่ละปีก็มีทั้งเด็กทั้งคนแก่ คนที่ยังหนุ่มยังแน่นแบบผมจะกลัวไปทำไมกัน? และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หลังจากนี้ผมไม่อยากให้ลูกสาวของผมรู้ว่า ครั้งแรกที่พ่อของเธอจะทำเพื่อเธอก็ล้มเหลวซะแล้ว”


พอพูดจบ เขาก็ถอดเสื้อโค้ตออกอย่างแน่วแน่เด็ดขาด เผยให้เห็นลวดลายของกล้ามเนื้อที่ดูราบรื่นทั่วทั้งตัว เมื่อลมทะเลพัดมา ขนทั่วทั้งตัวก็ลุกตั้งขึ้นมา ตอนนี้เขาสวมกางเกงว่ายน้ำอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น!


เห็นว่าเขาถอดเสื้อผ้าออก พวกชาวประมงก็พากันรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลังทันที ต่อจากนั้นชาร์คก็ตบมือนำคนอื่นๆ พาทุกๆ คนตะโกนส่งเสียงเชียร์ “บอส คุณเป็นลูกผู้ชายตัวจริง!” “บอส คุณสุดยอดมาก!” “กัปตัน คุณคือไอดอลของผม!” “โคตรรักคุณเลย กัปตัน!”


วินนี่ที่กำลังอุ้มลูกสาวเพื่อชมความคึกคักก็ดึงฉินสือโอวด้วยความหวาดกลัว เธอพูดด้วยความงงงันว่า “คุณเสียสติไปแล้วเหรอ?”


ฉินสือโอวจึงพูดกับเธอด้วยความประหลาดใจว่า “หมายความว่าอย่างไรครับ?”


บูลเริ่มถอดเสื้อผ้าออกอย่างช้าๆ หลังจากที่เขาถอดเสื้อโค้ตออก ก็เผยให้เห็นชุดดำน้ำทั้งชุด


ฉินสือโอวชอบเรียกเสื้อผ้าประเภทนี้ว่าชุดดำน้ำ แต่ที่จริงแล้วควรจะเรียกว่าชุดประดาน้ำในยุคปัจจุบันมากกว่า


ชุดดำน้ำถ้าพูดกันอย่างจริงจัง มันก็คือชุดประดาน้ำที่คนโบราณใช้หนังปลา เปลือกกุ้งหรือไม่ก็หนังฉลามมาเย็บติดกัน ผิวภายนอกเกลี้ยงเป็นมันและยังรักษาความอบอุ่นได้ดี สามารถทำให้สามารถว่ายน้ำได้เร็วขึ้นและอยู่ในน้ำได้นานกว่าเดิม


โดยทั่วไปแล้วชุดประดาน้ำในปัจจุบันจะทำมาจากผ้าไนลอนหรือไม่ก็ผ้าสแปนเด็กซ์ประกอบกับโฟมยาง แต่แบบที่ทันสมัยที่สุดจะทำมาจากวัสดุนาโน จะได้ชุดประดาน้ำที่บางมาก เหมือนกับว่ามีผิวหนังเพิ่มมาอีกชั้น ทว่าสามารถเก็บรักษาความอบอุ่นได้ดีเป็นอย่างยิ่ง


บูลมองดูฉินสือโอวที่สวมเพียงกางเกงว่ายน้ำแล้วหันกลับมามองตัวเองที่สวมชุดป้องกันจนถึงคออีกครั้ง สีหน้าท่าทางของเขาก็เก้อเขินอยู่เล็กน้อย เขายิ้มแหยๆ พร้อมกับพูดว่า “กัปตัน คุณเก่งเกินไปแล้วครับ ผมสู้คุณไม่ได้เลย ผมต้องอาศัยชุดประดาน้ำ ไม่อย่างนั้นถ้าสูญเสียความร้อนในร่างกายไปคงทำให้ผมทนไม่ไหวแน่ๆ”


ชาร์คผิวปากแล้วพูดว่า “บูล ไอ้แต๋วเอ๊ย ปกติแกเอาแต่ขี้โม้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่มีจิตใจแข็งแกร่งไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงได้หงอแล้วล่ะ?”


บูลฝืนใจไม่รับคำท้า แอนนี่ที่กำลังอุ้มลูกอยู่ก็พูดปลอบใจเขาว่า “อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเขาเลย ความปลอดภัยสำคัญที่สุดนะ ที่รัก มาให้จุ๊บหน่อย สู้ๆ นะคะ คุณไม่เป็นที่โหล่แน่ๆ!”


ฉินสือโอวอยากถามจริงๆ เลยว่า คุณต้องไม่เชื่อมั่นในสามีของคุณแค่ไหนกันเนี่ย?


วินนี่จะกลับไปหาชุดประดาน้ำ ฉินสือโอวมองดูสายตาตกตะลึงของทุกๆ คนก็รู้สึกว่าตัวเองอาจหาญเป็นอย่างมาก เขาขวางวินนี่เอาไว้ แล้วพูดด้วยท่าทางที่ดูทะนงองอาจว่า “ปล่อยให้อัศวินของคุณได้ทำตามใจตัวเองบ้างเถอะครับ เจ้าหญิงของผม! ในอนาคตจะต้องเล่าให้ลูกสาวฟัง ว่าพ่อของเธอทุ่มเทเพื่อเธอแค่ไหน!”


แบล็คไนฟ์พูดพึมๆ พำๆ “อะไรกันวะเนี่ย? ทำไมเหมือนกับว่ากำลังสั่งเสียกันเลยล่ะ?”


เบิร์ดจึงถลึงตาใส่เขาแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “พูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”


แบล็คไนฟ์จึงพูดด้วยความน้อยอกน้อยใจว่า “ไม่ใช่นะ เมื่อก่อนตอนที่พวกเราออกปฏิบัติการในสนามรบ ถ้าถูกเลือกเข้าไปในหน่วยกล้าตาย ทุกคนก็จะพูดแบบนี้กันทั้งนั้น ตอนที่นายอยู่ในหน่วยเดลตาก็ไม่ได้เป็นเหมือนกันหรอกเหรอ?”


เบิร์ดย้อนคิดกลับไปอย่างเงียบๆ อยู่สักพักหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “พวกเราจะเขียนมันลงไป…”


ที่จริงแล้วฉินสือโอวไม่ค่อยสนใจอุณหภูมิของน้ำเท่าไรนัก และนั่นเป็นหัวใจโพไซดอน หลังจากที่เขาลงไปในน้ำแล้วอุณหภูมิที่เขาได้สัมผัสจะเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะเหมือนกับการแช่น้ำอุ่นนั่นเอง ไม่มีทางเกิดความรู้สึกที่ผิดปกติ แถมยังทำให้รู้สึกสบายอีกด้วย


นั่นจึงยิ่งทำให้เขามีความมั่นใจมากขนาดนี้ เพียงแต่ว่า เขาจะต้องไม่แสดงออกจนเกินพอดี ไม่อย่างนั้นจะทำให้คนอื่นสงสัยเอาได้


การพัฒนาโลกจะฝืนกฎของธรรมชาติไม่ได้ ร่างกายของมนุษย์เมื่อแช่อยู่ในน้ำจะสูญเสียพลังงานความร้อนอย่างต่อเนื่อง หากแช่อยู่ในน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิเท่านี้สักสี่ห้าชั่วโมง คนคนนั้นจะต้องหนาวตายอย่างแน่นอน แต่หากมีการเคลื่อนไหวร่างกายปัญหาก็จะไม่รุนแรงขนาดนี้แล้ว เพียงแต่ว่าแบบนี้จะทำให้สูญเสียพลังงานความร้อนมากกว่าเดิมก็เท่านั้น


ฉินสือโอวบอกว่าจะขอลองดูก่อน เขากระโดดลงไปในน้ำ หลังจากนั้นเสียงตบมือก็ดังขึ้นเป็นบริเวณกว้าง เมื่อขจัดความยากลำบากในตอนเริ่มต้นได้แล้ว เขาก็เริ่มว่ายน้ำอย่างสบายอกสบายใจ


แบล็คไนฟ์อดที่จะยกนิ้วโป้งพร้อมกับเอ่ยปากชมไม่ได้ “บอสเป็นผู้ชายที่มีจิตใจแข็งแกร่งคนแรกที่ฉันเคยพบเจอ! ถ้าเขาไปเป็นทหาร เขาจะต้องเป็นคนกระดูกเหล็กอย่างแน่นอน!”


“บอสกระดูกเหล็ก ส่งเสียงเชียร์เขาสิ!”


“บอส ผมเลื่อมใสในตัวคุณ!”


บูลมองดูทุกๆ คนด้วยใบหน้าที่เป็นทุกข์ พูดว่า “ถ้าฉันถอดชุดประดาน้ำออกตอนนี้ จะนับว่าฉันเป็นผู้ชายที่มีจิตใจแข็งแกร่งไหม?”


แลนซ์ถีบเขาลงไปจากท่าเรือให้ตกลงไปในน้ำ “มัวแต่พูดเรื่องไร้สาระอยู่ได้ ลงน้ำไปซะ!”


บทที่ 1008 กาวที่เหนียวแน่นทนทาน

Ink Stone_Fantasy

ว่ายน้ำติดต่อกันสิบห้ากิโลเมตร นี่ไม่ได้ทดสอบกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่ยิ่งไปกว่านั้นยังทดสอบประสบการณ์อีกด้วย


ไม่มีใครสามารถว่ายน้ำสิบห้ากิโลได้ในอึดใจเดียว ดังนั้นนักว่ายน้ำจึงต้องรู้จักการปรับเปลี่ยนและจัดสรรเป็นอย่างดี บางครั้งก็ต้องยืมพลังของคลื่นทะเลในการลอยตัวสักพัก เพื่อช่วยฟื้นฟูกำลังกาย การแข่งขันเพื่อการกุศลในครั้งนี้เป็นการว่ายน้ำตามทิศทางลม ดังนั้นฉินสือโอวจึงเริ่มว่ายน้ำจากกลางทะเลไปสู่บริเวณริมชายฝั่ง เพื่อจำลองสนามการแข่งขันจริง


การทดลองครั้งแรก ฉินสือโอวรวบรวมพละกำลังว่ายน้ำเป็นเวลาติดต่อกัน กำลังกายและความอดทนของเขามันผิดปกติเป็นอย่างมาก ว่ายน้ำเป็นเวลาติดต่อกันออกมาได้หกเจ็ดกิโลเมตร เขาถึงเพิ่งจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย แล้วปีนขึ้นไปพักผ่อนบนเรือยอชต์ พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ เพื่อเพิ่มพลัง


แน่นอนว่า นี่เป็นการแสดงของเขาทั้งสิ้น ตอนอยู่ในน้ำเขาแทบจะไม่ได้สูญเสียพลังงานไปเลย กฎของเทอร์โมไดนามิกส์ในฟิสิกส์แบบฉบับ ไม่มีผลกับร่างกายของเขา


ชาร์คและคนอื่นๆ คลุมผ้าห่มสักหลาดให้เขาด้วยความเลื่อมใส แล้วส่งเครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อนที่ซีลไว้ให้กับเขา สรรเสริญเยินยอเขาสารพัดอย่างเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเคารพและศรัทธาของพวกเขาที่มีต่อฉินสือโอว


บูลหอบหายใจหนักๆ ว่ายน้ำตามมา เขาจะปีนขึ้นมาพักจึงจับด้านข้างของเรือยอชต์เอาไว้ แลนซ์ก็ถีบเขาลงไปอีกครั้ง แล้วพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ปีนขึ้นมาทำซากอะไรของแก ลงทะเลไปซะ!”


แบล็คไนฟ์เองก็พูดกับเขาอย่างเหยียดหยามว่า “อ่อนหัด บอสเปลือยท่อนบนว่ายน้ำด้วยซ้ำ แกสวมชุดประดาน้ำแต่ดันอยากได้รับการดูแลเหมือนกันอย่างนั้นน่ะเหรอ? น่าขายหน้าลูกชายแกจริงๆ!”


บูลอยากร้องไห้ทั้งๆ ที่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา ไอ้พวกเวร ฉันว่ายน้ำติดต่อกันมาตั้งหกเจ็ดกิโลเมตรฉันเหนื่อยแล้ว โอเคไหม พวกแกกล้าหาญนักก็ลงมาลองดูหน่อยไหมล่ะ


คำพูดแบบนี้พูดไปก็เปล่าประโยชน์ บูลมองค้อนปะหลับปะเหลือก ทำได้แค่เปลี่ยนความเศร้าโศกเสียใจจากความเจ็บแค้นให้กลายเป็นพลัง ก้มหน้ากัดฟันว่ายน้ำไปข้างหน้าต่อ


มองดูแผ่นหลังที่เงียบเหงาซึมเซาของบูล ชาร์คก็อดพูดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเขาไม่ได้ “ว่ายน้ำในฤดูกาลนี้ ว่ายน้ำออกมาติดต่อกันได้ถึงห้ากิโลเมตรก็สุดยอดแล้ว หรือว่าบูลต้องพักผ่อนแล้วจริงๆ?”


แลนซ์หันไปมองหน้าแบล็คไนฟ์ แล้วถามว่า “สถิติการว่ายน้ำในฤดูหนาวของนายอยู่ที่เท่าไร?”


แบล็คไนฟ์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ช่วงฤดูหนาวไม่เคยทดสอบมาก่อน แต่สถิติช่วงฤดูร้อนอยู่ที่ราวๆ หกกิโลเมตร”


“เวร รีบบอกให้บูลขึ้นมาเถอะ!”


แม้จะเป็นการแข่งขันไตรกีฬาคนเหล็กที่มีข้อกำหนดที่ต้องใช้ขีดจำกัดสูงสุด แต่รายการการแข่งขันว่ายน้ำก็มีระยะทางไม่เกิน 3.8 กิโลเมตร สามารถโหมว่ายน้ำถึงห้ากิโลเมตรได้ในครั้งเดียว ก็น่านับถือมากๆ แล้วจริงๆ


หลังจากที่พักผ่อนไปแล้วฉินสือโอวก็ลงน้ำไปอีกรอบ หู่จือกับเป้าจือที่ตามมากับเรือยอชต์ก็ยื่นอุ้งเท้าออกไปลองวัดอุณหภูมิน้ำ หลังจากนั้นจึงกระโดดลงน้ำไปอย่างแน่วแน่ เพื่อว่ายน้ำไปกับฉินสือโอว


ท้ายที่สุดตอนที่ฉินสือโอวปีนขึ้นมาบนท่าเรือ กลุ่มคนที่รอคอยอยู่ตรงนั้นก็ทยอยกันปรบมือให้เขา ศาสตราจารย์แซนเดอร์สที่เข้ามาลูบผิวของฉินสือโอวก็อุทานอย่างตื่นตะลึงว่า “พระเจ้า คุณมันเป็นปีศาจในร่างคนชัดๆ!”


ทิญาตกใจจนแทบพูดไม่ออก “ร่างกายของฉินแข็งแกร่งสุดยอดมาก! พระเจ้า ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ฉันคงไม่เชื่อแน่ๆ ว่าในฤดูกาลอย่างนี้จะมีใครสามารถว่ายน้ำตัวเปล่าได้ถึงสิบห้ากิโลเมตร!”


หู่จือกับเป้าจือเหนื่อยจนแลบลิ้นหายใจหอบ พวกมันลงน้ำตั้งแต่ช่วงครึ่งทาง อีกทั้งยังเป็นยอดสุนัขที่เคยได้รับการพัฒนาร่างกายด้วยพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน แต่ก็ยังทนไม่ไหว ทำให้เห็นได้ว่าการว่ายน้ำสิบห้ากิโลเมตรเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยขนาดไหน


วินนี่ช่วยฉินสือโอวเช็ดตัวให้แห้งกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาด้วยความเป็นห่วง เธอถามเขาว่า “เป็นยังไงบ้างคะ? คุณสวมชุดว่ายน้ำดีกว่าไหมคะ แบบนี้มันบ้าเกินไปแล้ว!”


ฉินสือโอวจูบเธอ แล้วพูดอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ว่า “ไม่ครับ ที่รัก นี่เป็นสิ่งแรกที่ผมทำเพื่อลูกสาวของเรา ผมจะต้องสร้างเรื่องเล่าไว้ให้เธอ ในอนาคตเธอจะได้รู้ว่า ผมรักเธอแค่ไหน!”


“ถ้ารักเธอคุณก็เล่านิทานให้เธอฟังเยอะๆ ก็พอ” วินนี่ส่งโกโก้ร้อนไปไว้ที่มุมปากของฉินสือโอว บริการเขาอย่างพร้อมสรรพ


ฉินสือโอวซด ‘อึกๆ’ เข้าไปสองคำ ต่อจากนั้นก็พูดอย่างแน่วแน่ว่า “ผมจะเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อการกุศลครั้งนี้!”


ที่จริงแล้วเขาชอบการออกกำลังกายมากๆ เมื่อก่อนเขาไม่เคยได้สัมผัสกับกีฬาที่ต้องใช้ขีดความสามารถสูงสุดมาก่อน ครั้งนี้เมื่อได้ลองสัมผัสเขาก็ชอบมันมากๆ ความรู้สึกของการทุ่มเทสุดแรงเกิดเพื่อเอาชนะขีดจำกัดของร่างกาย ชวนให้เขารู้สึกหลงใหลมันอยู่ไม่น้อย


ฉินสือโอวกลับไปอาบน้ำอุ่น หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วลงมาที่ห้องรับแขก เขาก็พบว่าศาสตราจารย์แซนเดอร์สกำลังนั่งอยู่บนโซฟา สวมแว่นตาพร้อมกับถือสมุดบันทึกเล่มหนึ่งมาด้วย เห็นได้ชัดว่ามาตามหาเขา


“เฮ้ ศาสตราจารย์ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?” ฉินสือโอวถามเขาด้วยรอยยิ้ม


แซนเดอร์สชูสมุดบันทึกขึ้น แล้วกล่าวว่า “บอส ผมมารายงานผลการวิจัยกลุ่มในช่วงนี้กับคุณ ผมต้องนำเงินไปทำเรื่องอยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ? มาอยู่ที่ฟาร์มปลาตั้งนานแล้ว ผมต้องหยิบเอาหัวข้อวิจัยออกมาบ้างแล้วล่ะ”


เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เขานั่งลงทางฝั่งตรงข้ามแล้วถามว่า “มีหัวข้อวิจัยอะไรเหรอครับ? คุณค้นพบว่าที่ฟาร์มปลามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”


แซนเดอร์สส่ายหัวปฏิเสธ กล่าวว่า “ที่ฟาร์มปลาเรียบร้อยดีครับ บอส ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาที่เป็นไปในทางที่ดี หัวข้อการวิจัยของผมไม่ได้เกี่ยวกับการพัฒนาของฟาร์มปลาเท่าไร เป็นการพัฒนาที่มาจากสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ลองดูรายงานของผมสิครับ”


ฉินสือโอวมองไปที่สมุดบันทึก ด้านในเป็นข้อมูลที่บันทึกด้วยลายมือที่ถูกเขียนขึ้นอย่างแน่นขนัด แซนเดอร์สพูดต่ออีกว่า “ผมวิจัยสิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลา พวกมันมีพละกำลังในการดำรงชีวิตที่แข็งแกร่งมาก นี่ทำให้ผมตกใจมากจริงๆ แต่น่าเสียดาย จนถึงตอนนี้ผมก็ยังหาสาเหตุของมันไม่เจอสักที แต่ในขั้นตอนการวิจัย ผมก็ได้ค้นพบของที่น่าสนใจบางส่วนจากตัวเพรียงตีนเต่า”


“กาวชีวภาพที่มีความเหนียวแน่นแข็งแกร่ง ชนิดหนึ่ง?” ฉินสือโอวถามเขาอย่างไม่แน่ใจ “นี่คืออะไรเหรอครับ?”


เมื่อพูดจบ เขาก็วางสมุดบันทึกลง กล่าวว่า “คุณต้องการพัฒนากาวที่มีพลังยึดเกาะที่เหนียวแน่นยิ่งขึ้นใช่ไหมครับ? นี่เป็นหัวข้อการวิจัยที่ดีเลยนะ ครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับเพรียงตีนเต่า ผมก็รู้สึกว่ามันน่ามหัศจรรย์มาก พลังยึดเกาะหินของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กพวกนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ!”


แซนเดอร์สพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว บอส ของเหลวที่เพรียงตีนเต่าหลั่งออกมามีพลังยึดเกาะที่เหนียวแน่นมาก แต่พละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงของพวกมัน ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อยึดเกาะกับหิน แต่จะแสดงให้เห็นเมื่อยึดเกาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีเหล็กผสมต่างหาก”


พอพูดจบ เขาก็ส่งก้อนโลหะที่เป็นสีขาวกับสีดำอย่างละครึ่งให้กับฉินสือโอว โลหะก้อนนี้ดูเหมือนจะมีสภาพครบสมบูรณ์ แต่เมื่อสังเกตดูดีๆ จะเห็นได้ว่า ส่วนที่เป็นสีขาวมีขนาดเล็กกว่าส่วนที่เป็นสีดำอยู่เล็กน้อย ราวกับว่าเป็นโลหะคนละก้อนที่ถูกติดไว้ด้วยกัน


ฉินสือโอวมองไปที่แซนเดอร์สอย่างหยั่งเชิง เขาเข้าใจถึงข้อสงสัยของฉินสือโอว จึงพยักหน้าพูดว่า “ใช่แล้วครับ นี่เป็นเหล็กคนละก้อนกัน ผมใช้กาวน้ำที่ผ่านการสกัดจนบริสุทธิ์แล้วเล็กน้อย หลังจากทาลงไปบนก้อนเหล็ก พวกมันก็กลายเป็นชิ้นส่วนเดียวกัน ผมเคยขอให้เพื่อนเก่าแก่ของผมลองทดสอบดูแล้ว พลังการยึดเกาะของกาวมีมากกว่า 180,000 ปอนด์ สามารถเรียกได้ว่าเป็นสถิติโลกเลย!”


“แล้วยังไงต่อเหรอครับ?” ฉินสือโอวถาม


แซนเดอร์สไหวไหล่แล้วตอบเขาว่า “กาวยึดเกาะที่ดีที่สุดในตอนนี้คือกาวชนิดแห้งเร็ว SCotch-Weld ที่วิจัยโดยบริษัท 3M ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่าง แอปเปิล ฮิวเล็ต-แพกการ์ด ไฮเออร์และบริษัทชั้นนำระดับโลกทุกแห่ง ต่างก็ใช้กาวน้ำชนิดนี้ในการยึดติดทั้งนั้น ตามที่ผมรู้มา ของพวกนี้มีราคาแพงมากๆ”


“มันสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ด้วยเหรอครับ?”


“แน่นอนอยู่แล้ว” แซนเดอร์สพูดด้วยความมั่นใจว่า “ขอเพียงคุณอนุญาต ผมก็จะส่งกาวชนิดนี้ไปให้เพื่อนเก่าของผมบางส่วนที่สถาบันวิจัยเคมีในโทรอนโต เพื่อให้พวกเขาช่วยวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของกาวชนิดนี้ ขอแค่สามารถหาสารเคมีที่แสดงประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้เจอ หลังจากนั้นถ้าสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ ก็จะสามารถเปลี่ยนให้เป็นเงินได้แล้ว ทำเงินได้อย่างดีเลย”


ฉินสือโอวไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไรนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่สอดมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ เขาวางสมุดบันทึกลงแล้วพูดว่า “จัดการได้ตามสบายเลยครับ ศาสตราจารย์ ผมจะสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่!”



 

 

 


บทที่ 1009 เดินทางถึงสนามรบ

 

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ฉินสือโอวก็ฝึกซ้อมว่ายน้ำระยะทางสิบห้ากิโลเมตรอย่างจดจ่อตั้งใจ ครั้งแรกที่ลองซ้อมเขาก็สามารถทำเวลาสี่ชั่วโมงได้แล้ว หลังจากนั้นสถานการณ์ในช่วงที่ดีที่สุดเขาก็สามารถว่ายน้ำได้สำเร็จภายในเวลาสามชั่วโมงครึ่ง


บัตเลอร์นำปลาทูน่าตัวใหญ่ขนาดเก้าร้อยปอนด์ไปที่ญี่ปุ่น เมื่อปลาตัวนี้เผยโฉมหน้าออกไป มันก็สร้างความตกใจขึ้นในเมืองโตเกียวเป็นอย่างมาก


ปีนี้ตลาดปลาทูน่าของญี่ปุ่นตกต่ำลง ปลาหนักห้าร้อยปอนด์ขึ้นไปก็นับว่าเป็นปลาใหญ่แล้ว ปลาหนักแปดร้อยปอนด์ขึ้นไปก็ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไรแล้ว เมื่อปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวนี้ปรากฏตัวจึงแทบจะได้รับการยืนยันว่าเป็นราชาแห่งปลาแล้ว


สิ่งที่ช่วยปลุกใจให้บรรดานักธุรกิจอาหารทะเลในโตเกียวรู้สึกฮึกเหิม ไม่ใช่เพราะน้ำหนักของปลาตัวนี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคุณภาพของเนื้อปลาอีกด้วย ปริมาณไขมันในร่างกายของปลาตัวนี้สร้างสถิติใหม่ คุณภาพสูงกว่าปลาใหญ่ตัวที่ฉินสือโอวนำไปประมูลเมื่อปีที่แล้วเสียอีก ราคาประมูลที่คาดการณ์ไว้ก็น่าจะสูงกว่าเดิม ไม่มีทางต่ำกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน


ฉินสือโอวไม่ได้ติดตามเรื่องนี้เท่าไรนัก วันที่สิบเดือนมีนาคม เขาก็ขับเรือพาคนในครอบครัวพร้อมกับเหล่าสัตว์เลี้ยงพวกหู่เป้าฉงหลัวไปที่เกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันครั้งใหญ่ในสนามนี้แล้ว


เรือแฟร์เวลเดินเรือด้วยความเร็วสูง ฝ่าลมโต้คลื่นไปตลอดทั้งทาง หนึ่งวันก่อนจะถึงการแข่งขันพวกเขาก็ไปถึงช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์แล้ว


ตอนที่เดินทางมาถึงช่องแคบ ก็เป็นช่วงเช้าตรู่พอดี ฉินสือโอวยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือแล้วกวาดตามองไปรอบๆ สิ่งที่เขามองเห็นเป็นอย่างแรกก็คือสะพานสมาพันธ์ที่มีชื่อเสียงของแคนาดา


สะพานสมาพันธ์เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ของแคนาดาในการท้าทายและพิชิตธรรมชาติหลังจากแปซิฟิกเรลโรด เป็นสะพานที่เชื่อมกันระหว่างเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดกับรัฐนิวบรันสวิก เป็นสะพานข้ามมหาสมุทรขนาดยักษ์


สะพานใหญ่ยักษ์แห่งนี้มีลักษณะแคบสูงและทอดตัวยาวติดต่อกัน มีรูปแบบการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ น่าทึ่ง ทว่ามีเค้าโครงที่ดูงดงามสบายตาเป็นอย่างยิ่ง หากใช้ประโยคคำพูดที่พบได้บ่อยในเมืองจีนมาบรรยาย ก็จะบรรยายได้ว่าราวกับมังกรยักษ์ตัวหนึ่งที่วนเวียนอยู่เหนือมหาสมุทรนั่นเอง


พระอาทิตย์ในยามเช้าเพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้า แสงแดดสาดส่องลงมาบนผิวน้ำและบนสะพาน ยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์มากขึ้น


ฉินสือโอวค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตอยู่สักพัก สะพานแห่งนี้มีความยาวทั้งหมด 12.9 กิโลเมตร เป็นสะพานพาดผ่านผืนน้ำที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในโลกของยุคปัจจุบัน การก่อสร้างสะพานแห่งนี้รวมถึงการเปิดให้รถสัญจรผ่านไปผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดที่แยกตัวออกจากโลกภายนอกอย่างโดดเดี่ยวมาเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปีไปโดยสิ้นเชิง และยังถูกคนทั่วโลกยอมรับให้เป็นสิ่งโครงการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแคนาดาในศตวรรษที่ 20


สำหรับเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดแล้ว ตอนนี้สะพานสมาพันธ์ได้กลายเป็นสะพานแห่งใหญ่ของชีวิต ก่อนหน้าที่จะสร้างสะพานใหญ่แห่งนี้ การสัญจรไปมาระหว่างเกาะแห่งนี้กับโลกภายนอกล้วนแต่ต้องอาศัยเรือข้ามฟากและเครื่องบินทั้งสิ้น


ในตอนนั้นเพื่อที่จะพิชิตอุปสรรคทางการจราจรที่แยกแคนาดาออกจากกัน ในช่วงศตวรรษที่ 20 ยุคปี 80 รัฐบาลส่วนภูมิภาคของเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดจึงได้เสนอให้รัฐบาลกลางสร้างอุโมงค์ที่ลอดผ่านใต้ทะเล หรือไม่ก็สะพานข้ามทะเล


เรื่องนี้เคยเกือบจะสร้างความวุ่นวายภายในเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด เนื่องจากผู้อยู่อาศัยบนเกาะส่วนหนึ่งกังวลว่าหากสร้างเส้นทางการจราจรได้สำเร็จ จะทำให้ “สภาพที่มีมาแต่เดิม” ของเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด ถูกทำลายลง จนทำให้การใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบของพวกเขาต้องยุ่งเหยิงวุ่นวาย


ส่วนผู้อยู่อาศัยอีกส่วนหนึ่งก็สนับสนุนการสร้างอุโมงค์ใต้น้ำหรือสะพานข้ามทะเลเพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ที่ “วิเวกวังเวง” ให้ดีขึ้น


ครั้งหนึ่งความคิดเห็นสองแบบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเคยมีอิทธิพลจนทำให้เกิดการขัดแย้งอย่างรุนแรง ท้ายที่สุดรัฐบาลส่วนภูมิภาคจึงต้องใช้กำลังทหารเข้าปราบปราม และตัดสินใจใช้วิธีให้ผู้อยู่อาศัยทั่วทั้งเกาะลงประชามติ และดำเนินการลงประชามติเมื่อ วันที่ 18 เดือนมกราคม ปี 1988


ผลสรุปสุดท้ายมีผู้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้สร้างสะพานข้ามมหาสมุทรอยู่ 59.4% เริ่มโครงการในปี 1993 ใช้แรงงานห้าพันคน กับเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดำเนินงานสำเร็จลุล่วงและเปิดให้รถสัญจรในปี 1997 กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างคุณูปการอันเกริกก้องได้สำเร็จ


การเลือกจัดการแข่งขันเพื่อการกุศลที่ช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์ก็มีความหมายโดยนัยที่แอบแฝงอยู่เช่นกัน ซึ่งสะพานสมาพันธ์ก็คือจิตวิญญาณของการแข่งขัน เป็นสัญลักษณ์ของผู้เข้าร่วมที่ต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ต่อกับความยากจน โรคภัยไข้เจ็บ และความท้อแท้สิ้นหวัง


ชาร์คเดินออกมาจากห้องบังคับการเรือ เขาเห็นฉินสือโอวกำลังใช้สายตาที่ตื่นตะลึงมองดูสะพานใหญ่แห่งนี้ จึงพูดขึ้นมาว่า “บอส คุณต้องดูมันไว้ให้มากๆ นะครับ ตอนที่เข้าแข่งขันมันจะเป็นสัญลักษณ์บอกทิศทางในการว่ายน้ำให้กับพวกคุณ ถ้าคุณเห็นว่าตัวเองอยู่ไกลจากสะพานเกินไป ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางในการว่ายน้ำแล้ว”


ฉินสือโอวพยักหน้ารับ ตอนที่เรือยอชต์ขับผ่านใต้สะพานใหญ่ เขาก็แหงนหน้าขึ้นมอง ธงผืนใหญ่ทั้งสี่ด้านปลิวไสวอยู่ใต้ลมทะเลพัดหวีดหวิว แบ่งออกเป็นธงชาติแคนาดา ธงประจำรัฐเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด ธงประจำรัฐนิวบรันสวิกรวมไปถึงธงของสะพานสมาพันธ์


วินนี่เห็นเขาเอาแต่จ้องมองสะพานใหญ่อย่างใจลอย เธอจึงถามเขาว่า “คุณมองอะไรอยู่เหรอคะ? เพิ่งเคยเห็นสะพานที่ยิ่งใหญ่สง่างามแบบนี้เป็นครั้งแรกเหรอ?”


ฉินสือโอวกล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ ผมกำลังใคร่ครวญเรื่องเรื่องหนึ่งอยู่ ผมกำลังคิดว่าเกาะแฟร์เวลควรจะเอาอย่างเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดบ้างหรือเปล่า ควรจะสร้างสะพานข้ามทะเลอย่างนี้บ้างหรือเปล่า?”


วินนี่ชะงักงันไปทันที ต่อจากนั้นเธอจึงหัวเราะคิกคัก แล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณล้อเล่นเรื่องอะไรกันคะ? เกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดมีพื้นที่อยู่หกพันตารางกิโลเมตร มีพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 104 ของโลก เป็นอันดับที่ 23 ของแคนาดา ส่วนเกาะแฟร์เวลน่ะเหรอ?”


ฉินสือโอวไหวไหล่พูดว่า “เนื้อที่ของเกาะแฟร์เวลก็ใหญ่มากเหมือนกัน มีพื้นที่ตั้งสี่ร้อยห้าร้อยตารางกิโลเมตรเลยไม่ใช่เหรอครับ?”


วินนี่พินิจพิเคราะห์สีหน้าท่าทางของเขาอย่างเอาใจใส่ เธอเผยท่าทางหวาดหวั่นออกมาพร้อมกับพูดว่า “คุณจริงจังเหรอคะ?”


สะพานสมาพันธ์อาจจะดูยิ่งใหญ่เกรียงไกร แต่แท้ที่จริงแล้วมีความยาวแค่สิบกิโลเมตรกว่าๆ เท่านั้น แล้วระยะห่างระหว่างเกาะแฟร์เวลกับนครเซนต์จอห์นน่ะเหรอ? แปดสิบกิโลเมตรกว่าๆ! อีกทั้งในช่วงศตวรรษก่อนสะพานสมาพันธ์ที่ยาวกว่าสิบกิโลเมตรยังมีค่าใช้จ่ายถึงมูลค่าหนึ่งพันล้าน แล้วสะพานใหญ่ที่มีความยาวกว่าแปดสิบกิโลเมตรล่ะ?


วินนี่ยิ่งคิดใจของเธอก็ยิ่งสั่นกลัว เธอกำลังคิดว่าจะเกลี้ยกล่อมฉินสือโอวให้ละทิ้งความคิดที่อยู่เหนือความเป็นจริงแบบนี้ แต่ฉินสือโอวกลับหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้นมาก่อนว่า “คุณเชื่ออย่างนั้นจริงๆ เหรอครับ? ผมมันแค่คนโง่ๆ สมองกลวงๆ จะมีความคิดที่จะสร้างสะพานใหญ่ที่มีความยาวหลายสิบเมตรได้ยังไงกัน?”


ระยะห่างไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่คุณค่าของมัน ความหนาแน่นของจำนวนประชากรบนเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดอยู่ที่ยี่สิบห้าคนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร นี่เป็นระดับความหนาแน่นที่มากที่สุดจากทุกๆ รัฐในแคนาดา แล้วที่เกาะแฟร์เวลน่ะเหรอ? โดยเฉลี่ยแล้วหนึ่งตารางกิโลเมตรจะมีประชากรเพียงสี่ถึงห้าคนเท่านั้น…


ที่ฉินสือโอวมาถึงเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดก่อนเวลา ไม่ใช่เพราะจะทำความคุ้นเคยกับสนามการแข่งขันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังอยากจะเที่ยวเล่นรอบๆ เกาะนี้ด้วย


เกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดมีชื่อเสียงในเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ในการนำเสนอรัฐแต่ละรัฐของแคนาดา การนำเสนอสำหรับที่นี่ก็คือ พระเจ้าได้สรรค์สร้างแผ่นดินใหญ่ผืนหนึ่งไว้ท่ามกลางมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีคลื่นซัดสาดอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้จึงก่อกำเนิดเป็นเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีความงดงาม


ในภาษาของชาวอินเดียนแดงที่เป็นผู้อยู่อาศัยมาแต่เดิม ชื่อของเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดคือ ‘อาเบกไวท์’ มีความหมายว่า “เปลที่ลอยไปบนคลื่น” จากสิ่งนี้ก็ทำให้รู้ได้ว่ามันสวยงามมากขนาดไหน


นอกจากวิวทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว เกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของแคนาดา ซึ่งก็คือสภาพอากาศที่อบอุ่นนั่นเอง


น้ำทะเลของอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ที่มีอุณหภูมิที่อบอุ่น ทำให้สภาพอากาศบนเกาะอบอุ่นกว่าสภาพอากาศบนแผ่นดินใหญ่ของแคนาดา จึงเสริมให้ที่นี่มีสภาพอากาศที่เปียกชื้นตลอดทั้งปี


ฤดูร้อนของที่นี่มีอากาศอบอุ่นและชุ่มชื้น อุณหภูมิมักจะคงตัวต่ำกว่ายี่สิบองศา อุณหภูมิสูงสุดอาจจะสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส สำหรับแคนาดานับว่าที่นี่เป็นที่มีอากาศร้อนแผดเผาที่สุดแล้ว


ตอนนี้เป็นเวลาช่วงเดือนมีนาคม อุณหภูมิยังค่อนข้างต่ำ จะอยู่ที่ราวๆ สี่ถึงห้าองศาเซลเซียส แต่สำหรับชาวแคนาดาที่คุ้นชินกับอากาศหนาวเย็นแล้ว อุณหภูมิเท่านี้ก็นับว่าสามารถสวมเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิได้แล้ว


เรือแฟร์เวลเข้าเทียบท่า ขณะที่ฉินสือโอวลงมาจากเรือเขายังเห็นชาวประมงที่อยู่บนท่าเรือหลายคนสวมใส่เสื้อนวมที่บุด้วยผ้าฝ้าย แต่เมื่อเข้ามาในเขตเมืองแล้ว กลับพบเห็นการแต่งกายแบบนี้ได้น้อย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือเด็ก ต่างก็เปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงแทนแล้ว ต่อให้ลมหนาวจะพัดผ่านเข้ามาจนทำให้หนาวจนตัวสั่นเป็นครั้งคราว แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจ



 

 

 


บทที่ 1010 คนผิวเหลืองไม่สามารถเอาชนะได้

 

วันที่ 10 มีนาคม เกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดเพิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์จึงพัดเอาลมทะเลอ่อนๆ อันแสนอบอุ่นเข้ามาด้วย หลายพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งในแคนาดา ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในช่วงอากาศหนาวเย็น เพราะเกาะแห่งนี้ได้ผ่านความอบอุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว


บริดจ์พาร์คในบอร์เดนคาร์ลตันฝั่งตอนเหนือของช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์ มีรถสัญจรไปมาและมีเสียงของผู้คนมากมาย


พื้นดินของเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดมีสีน้ำตาลแดง เนื่องจากในดินมีเฟอร์ริกออกไซด์จำนวนมาก คุณภาพดินชนิดนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากและเหมาะกับการปลูกพืชผักและพืชคลุมดิน ในบริดจ์พาร์คมีการเจริญเติบโตของพืชเขตอบอุ่นจำนวนมาก แม้ว่าอากาศจะยังเย็นอยู่ แต่เนื่องจากดินมีความอุดมสมบูรณ์มาก จึงยังมีการเจริญเติบโตของหญ้าสีเขียวเต็มพื้นที่อันกว้างใหญ่


ฉินสือโอวนั่งลงบนผืนหญ้าสีเขียวและมองไปที่หาดทรายสีขาวตรงหน้าอย่างสบายใจ บูลกำลังยืดกล้ามเนื้อพร้อมกับหอบฮืดฮาดไปด้วยอยู่บริเวณชายหาด เขาลุกขึ้นยืนให้ชาร์คและแลนซ์ช่วยยืดเอ็นเพื่อให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายของเขา


เชอร์ลี่ย์วิ่งเข้ามาถามว่า “ฉิน คุณไม่ต้องอุ่นเครื่องก่อนแข่งเหรอคะ? ทุกคนกำลังอุ่นเครื่องกันอยู่ การแข่งขันใกล้จะเริ่มแล้วนะคะ”


วันนี้เป็นวันแข่งขันการกุศล จึงมีผู้คนมากมายในสวนสาธารณะ บริดจ์พาร์คจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันและจุดสิ้นสุดจะอยู่ที่แหลมจอริเมนในรัฐนิวบรันสวิก ซึ่งระยะทางการแข่งขันมีความยาวทั้งหมดสิบห้ากิโลเมตร


ไวส์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉินสือโอวก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าทาง ‘ชู่ๆ เงียบๆ’ ใส่เชอร์ลี่ย์และเขากระซิบเบาๆ ว่า “คุณไม่เข้าใจ อาจารย์กำลังทำสมาธิอยู่…”


เชอร์ลี่ย์จึงถามด้วยความสงสัยว่า “ทำสมาธิเหรอ? นี่ไม่ใช่วิธีการออกกำลังกายของพ่อมดใช่ไหม? พวกคุณเป็นอัศวินหรือพ่อมดหรือไงกัน?”


ไวส์ยิ้มแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าเป็นอัศวินสิ ผมก็แค่เปรียบเทียบ ที่จริงแล้วอาจารย์กำลัง เอ่อ กำลัง กำลังฝึกกำลังภายในอยู่ต่างหาก! ใช่สิ กำลังภายในจำเป็นต้องใช้ความเงียบในการหมุนเวียนกำลังภายในร่างกายเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์!”


เชอร์ลี่ย์หัวเราะพลางโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ๆๆๆ ไวส์ นายอินเกินไปแล้ว กำลังภายในอะไรมีที่ไหนกัน?”


พอได้ยินเช่นนั้น อัศวินตัวน้อยก็รู้สึกไม่พอใจ เขาจึงแสดงสีหน้าท่าทาง ‘พูดกับคุณแล้วมันน่าเบื่อมาก’ ออกมา จากนั้นโบกมือแล้วพูดว่า “คุณไปเถอะ เชอร์ลี่ย์ สำนักของพวกเราไม่ต้อนรับคุณ!”


เชอร์ลี่ย์เริ่มโตมากแล้วและฉินสือโอวเคยบอกกับเธอว่าให้ดูแลไวส์ ดังนั้นเมื่อเธอเห็นน้องชายตัวเล็กไร้เดียงสาคนนี้กำลังโกรธ เธอรีบพูดหยอกว่า “ฉันล้อเล่นน่ะ อัศวินตัวน้อย นายต้องรู้จักใจกว้างนะ ไม่อย่างนั้นจะส่งเสริมให้ผู้คนทำความดีได้อย่างไร?”


ไวส์คิดไม่ถึงว่า ‘การใจกว้าง’ และ ‘การส่งเสริมให้ผู้คนทำความดี’ จะเกี่ยวข้องกัน แต่เขารู้สึกว่าตัวเองใจกว้างจริงๆ เพราะเชอร์ลี่ย์เรียกเขาว่าอัศวินตัวน้อย ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ายิ้ม “โอเค ผมให้อภัยคุณ คุณอยู่ที่นี่ได้”


เชอร์ลี่ย์กลอกตาอย่างเอือมระอาแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ต้องการจะอยู่ที่นี่ แต่ฉันต้องการให้ฉินไปอุ่นเครื่อง! เอาล่ะๆ ฉันรู้แล้วว่าเขากำลังใช้กำลังภายในอุ่นเครื่องอยู่ ฉันไม่พูดแล้ว ว่าแต่ไวส์นายได้ฝึกกำลังภายในด้วยหรือเปล่า?”


ประโยคนี้มีพลังทำลายล้างสูงมาก ไวส์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดออกมาด้วยความเขินอายเล็กน้อยว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะฝึกได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน แต่ผมมีพลังลมปราณแล้ว แค่มีลมปราณก็ถือว่ามีพื้นฐานแล้ว”


เขาพูดแบบนี้ก็เป็นเหมือนกับการปลอบใจตัวเองอย่างหนึ่ง


ฉินสือโอวไม่รีบอุ่นเครื่อง เพราะระยะเวลาการแข่งขันยังเหลืออีกหนึ่งชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน


ทางฝั่งบูลทั่วร่างกายของเขาถูกเสียดสีจนแดงไปหมด เขาเริ่มวิ่งเหยาะๆ และเคลื่อนไหวกล้ามเนื้ออีกครั้งพร้อมกับร้องตะโกนส่งเสียงขึ้นมา เพื่อให้เข้ากับร่างกายที่แข็งแรงของเขา ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าเต็มไปด้วยความงดงามของความแข็งแกร่งของชายที่มีร่างกายกำยำ ดังนั้นจึงทำให้ดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชนได้อย่างรวดเร็ว


แคนาดาให้ความสนใจกับกิจกรรมการกุศลเป็นอย่างมาก ต่อให้เป็นคนงานชั้นล่างสุดก็จะบริจาคเงินหรือสิ่งของให้ในหลายๆ ครั้งต่อปี ดังนั้นทุกครั้งที่มีกิจกรรมการกุศล สื่อมวลชนก็จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ


ฉินสือโอวมองว่า การแข่งขันการกุศลข้ามช่องแคบนี้สามารถดึงดูดสื่อได้มากกว่าสิบรายการและมีสถานีโทรทัศน์สองแห่งกำลังทำการถ่ายทอดสดที่นี่แล้ว


บริดจ์พาร์คเป็นสถานที่ที่สวยงามมาก ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยหาดทรายขาวละเอียด เนินทรายเล็กๆ บริเวณชายหาดและผาหินทรายสีแดงอันสูงชัน เสียงคลื่นกระทบหน้าผา ‘ซ่าซ่าซ่า’ มาแต่ไกล และมักจะมีนกนางนวลสีขาวราวกับหิมะโบยบินผ่านพื้นดินอย่างรวดเร็ว ทำให้การแข่งขันอันดุเดือดมีบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติมากขึ้นเล็กน้อย


หลังจากฉินสือโอวลุกขึ้นยืน หู่จือและเป้าจือก็วิ่งมาอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเบิกบานใจ พวกมันพากันส่ายหัวและกระดิกหางเพื่อแสดงให้เห็นเสื้อหนังบนตัวของพวกมัน


ในช่วงการฝึกก่อนหน้านี้ ฉินสือโอวจะตามหู่จือและเป้าจือลงไปในน้ำด้วยทุกครั้ง ดังนั้นวินนี่จึงมีความคิดอย่างหนึ่งคือให้แลบราดอร์สองตัวเข้าร่วมการแข่งขันกับฉินสือโอวด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันสูญเสียความร้อนมากเกินไป จึงสั่งทำเสื้อหนังสำหรับสุนัขให้พวกมันเป็นพิเศษ


ฉินสือโอวนั่งยองๆ และเกาคางของเจ้าตัวเล็กสองตัว จากนั้นก็เริ่มพาพวกมันวิ่ง


ผู้เข้าแข่งขันพากันอุ่นเครื่องกันทั่วทั้งชายหาด การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นค่อนข้างยิ่งใหญ่ จากที่สังเกตฉินสือโอวคาดเดาว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำอย่างน้อยสองร้อยคน ซึ่งทุกคนล้วนเป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ


หลังจากเข้าสู่ชายหาด เสียงก็เริ่มดังวุ่นวายขึ้น ผู้ชายร้องตะโกนให้กำลังใจตัวเอง ส่วนผู้หญิงก็กำชับเตือนผู้ชายของตัวเองและยังมีเด็กๆ อีกมากมายที่กำลังร้องไห้โฮเสียงดัง…


เหล่านักข่าวจากสื่อต่างๆ ต่างก็กำลังสัมภาษณ์ผู้เข้าแข่งขันและผู้จัดงาน ฉินสือโอวเห็นชายสองคนรูปร่างสูงใหญ่ยืนให้สัมภาษณ์ด้วยกัน จึงแอบวิ่งไปดูอย่างเงียบๆ ทั้งสองคนมีแผ่นตัวเลขผู้เข้าร่วมแข่งขันติดอยู่ข้างหลังและข้างบนจะเขียนชื่อกำกับไว้


และสองคนนี้คือแรนส์ เคลวินและเซลต้า บรูคส์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีเสียงเรียกร้องให้เป็นแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้มากที่สุด


แรนส์ เคลวินเป็นชายผิวขาวศีรษะล้านที่มีหนวดเคราวัยสี่สิบกว่า มีผิวพรรณเปล่งปลั่งและดูกระฉับกระเฉง เขาแบกเด็กอายุหนึ่งขวบกว่าไว้บนไหล่และใช้ไมโครโฟนพูดปราศรัยด้วยเสียงดังกังวาน การแสดงออกของเขาทั้งสงบเยือกเย็นและเต็มไปด้วยความมั่นใจ


เซลต้าเป็นชายผิวดำที่มีรูปร่างเตี้ย กล้ามเนื้อตามร่างกายเขาเป็นรูปเป็นร่างอย่างเห็นได้ชัด เขายืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกับลูกระเบิดที่เต็มไปด้วยแรงปะทะ


ฉินสือโอวเพียงแค่จะเข้ามาดูสักหน่อยว่าคู่ต่อสู้คือใคร รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง


ผลคือเขายังมีชื่อเสียงอยู่ เขายืนอยู่ตรงนั้นได้ไม่นานก็มีนักข่าวหาทางเข้ามาสัมภาษณ์ “สวัสดี คุณคือฉิน? เจ้าของฟาร์มปลาต้าฉินใช่ไหม?”


ฉินสือโอวยิ้มพร้อมพูดว่า “ใช่แล้ว ผมคือฉินสือโอว”


เกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดห่างจากเซนต์จอห์นไม่ไกลมากนัก ในบริเวณปากทางออกทะเลของอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ เรื่องราวที่เขาเคยช่วยเรือลำหนึ่งท่ามกลางพายุฝนในตอนแรก ทำให้มีการแพร่กระจายอย่างกว้างขวางในที่แห่งนี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนรู้จักเขา


เห็นได้ชัดว่านักข่าวคนนั้นก็คงรู้เรื่องนี้เหมือนกัน หลังจากได้รับการยืนยันแล้วก็แสดงความเคารพออกมาและถามด้วยความตื่นเต้นว่า “ฉันขอสัมภาษณ์คุณสักหน่อยได้ไหม? ฉันเป็นแฟนคลับของนิมิตส์ ขอถามหน่อยได้ไหมว่าวันนี้มันมาด้วยหรือเปล่า?”


ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “ใช่ เขามา แต่ไม่รู้ว่าไปวิ่งเล่นที่ไหนแล้ว ถ้าคุณอยากสัมภาษณ์ผมจริงๆ ผมหวังว่าคุณจะพูดคุยเรื่องที่เกี่ยวกับผมนะ”


นักข่าวถอนหายใจอย่างเสียดาย จากนั้นจึงพูดอย่างฮึกเหิมว่า “อ้อ ฉิน นี่ไม่จำเป็น คุณคือตัวเต็งในการเผยแพร่การแข่งขันการกุศลครั้งนี้ เพราะทุกคนต่างรู้จักคุณอยู่พอประมาณ นอกจากนี้ ฉันได้ยินลูกน้องชาวประมงของคุณพูดกันมาว่าคุณมั่นใจมากว่าจะชนะการแข่งขัน? และจะชิงแชมป์ครั้งนี้ใช่ไหม?”


“แน่นอน คนที่มาเข้าร่วมการแข่งขัน ใครจะไม่มีความมั่นใจกันล่ะ?” ฉินสือโอวยิ้มตอบ เขามองไปที่บูล เจ้านี่ขอแค่ไม่ใช่ที่สุดท้าย เขาก็จะไม่ยอมแพ้


เขาพูดออกไปอย่างไม่สนอะไร ในเมื่อยังไม่เริ่มแข่งขัน แน่นอนว่าทุกคนมาที่นี่ก็เพื่อเป็นแชมป์ทั้งนั้น มิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการเข้าร่วม แต่สำหรับชาวแคนาดาที่มีนิสัยเปิดเผยแล้ว นี่คือคำพูดที่ไร้สาระ ถ้าเขาพูดแบบนี้ออกไปกับสื่อ คงถูกคนมองว่าเป็นพวกขี้ขลาด


เป็นผลให้มีคนจงใจจ้องจับผิดเขาและมีเสียงดังขึ้นมาจากข้างหลัง แล้วพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า “ไม่หรอก คุณฉิน ผมเสียใจที่ต้องบอกคุณว่าการแข่งขันว่ายน้ำแบบนี้ไม่เหมาะกับคนผิวเหลืองอย่างคุณ คุณคงไม่สามารถคว้าแชมป์ไปได้”



 

 

 


บทที่ 1011 ฉันก็เป็นคนพูดตรงๆ

 

ฉินสือโอวหันหลังกลับไปด้วยความประหลาดใจ แม่เจ้า ใครกันที่โชว์โง่แบบนี้? คิดไม่ถึงว่าคำพูดนี้จะพูดต่อหน้าสื่อ รนหาที่จริงๆ หลังจากได้ยินคำพูดนั้น ฉินสือโอวก็รู้เลยว่าเขาเป็นพวกดูถูกคนผิวเหลือง


พอหันกลับไปมองดู สิ่งที่สะท้อนเข้าไปยังนัยตาของเขาคือศีรษะล้านขนาดใหญ่ที่เต็มเปี่ยมด้วยกำลังวังชา แต่ที่น่าตกใจคือ เขาคือแรนส์อดีตนักว่ายน้ำมือหนึ่งของประเทศแคนาดาที่ได้มีการกำหนดให้เป็นแชมป์ไว้ล่วงหน้าแล้ว


ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์นั้นคำพูดของแรนส์ไม่ได้มีปัญหาอะไร


นักวิทยาศาสตร์ได้แบ่งมนุษย์บนโลกออกเป็นสามเผ่าพันธุ์หลักใหญ่ๆ ตามลักษณะพันธุกรรมและลักษณะคุณสมบัติ โดยแบ่งเป็นชนชาติคนผิวเหลือง (เชื้อชาติมองโกเลีย) ชนชาติคนผิวขาว (เชื้อชาติคอเคเซียน) และชนชาติคนผิวดำ (เชื้อชาตินิโกร)


ในการแข่งขันกีฬา ทั้งสามชนชาติมีความแตกต่างทางเชื้อชาติกันอย่างเห็นได้ชัด ต่างคนต่างก็มีข้อได้เปรียบของตัวเอง โดยเฉพาะกับกีฬาว่ายน้ำ ซึ่งเป็นโลกของคนผิวขาว พวกเขาจึงได้เป็นเจ้าแห่งวงการนี้อย่างแน่นอน


จะเห็นได้จากเหตุการณ์การแข่งขันว่ายน้ำขนาดใหญ่ในอดีตตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 ตามสถิติแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือและทวีปโอเชียเนียได้รับรางวัลเหรียญที่เกี่ยวข้องมากกว่า 70% แต่ในทวีปเอเชียที่มีคนผิวเหลืองเป็นหลักจะได้รับรางวัลแค่หนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์ของเหรียญรางวัลและทวีปแอฟริกาจะอยู่ต่ำสุดประมาณ 5% และนี่ยังรวมถึงคนผิวขาวที่เป็นตัวแทนของประเทศในแอฟริกาเหนือ


ในกีฬาว่ายน้ำ คนผิวขาวมีข้อได้เปรียบทางกายภาพที่มีโดยธรรมชาติ เพราะนักกีฬาว่ายน้ำส่วนใหญ่จะมีลักษณะเด่นคือไหล่กว้าง แขนยาว เท้าใหญ่ แรงปะทะที่แข็งแกร่งและปอดขนาดใหญ่


นักกีฬาที่มีไหล่กว้างจะทำให้แรงของแขนขามีมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับการว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์และท่าผีเสื้อทั้งสองท่านี้ ไหล่ยิ่งกว้างยิ่งจะทำให้เคลื่อนไหวเข้าสู่เส้นชัยได้ดีและยังทำให้ระยะการสไลด์ตัวแนวตรงดิ่งในน้ำของนักกีฬาทำได้ไกลยิ่งขึ้น


เท้าเป็นเหมือนใบพัดของนักว่ายน้ำ ฝ่าเท้าขนาดใหญ่จะสามารถส่งแรงที่แข็งแกร่งใต้น้ำได้ เมื่อหมุนตัวและออกสตาร์ท ระยะการสไลด์จะไปได้ไกลกว่านักกีฬาลงแข่งทั่วไป ดังนั้นโค้ชส่วนใหญ่จึงคิดว่าการมีเท้าขนาดใหญ่เป็นส่วนประกอบธรรมชาติของการว่ายน้ำ เท้าของนักกีฬาว่ายน้ำชาวออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงอย่างโธร์ป “ตอร์ปิโด” มีขนาดเท้าประมาณสามสิบสามเซนติเมตร ซึ่งพอๆ กับเหยาหมิงที่มีขนาดสองเมตรยี่สิบหกเซนติเมตร


แรงปะทะที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักกีฬาว่ายน้ำ นักกีฬาที่มีแรงปะทะแข็งแกร่งมาก ก็จะยิ่งทำให้การออกตัวไปข้างหน้าได้เร็วมากขึ้น เฟล็ปส์ ‘ปลาบิน’ มีเท้าทั้งสองข้างที่ทรงพลังมาก


การมีปอดขนาดใหญ่จะทำให้ความถี่ในการหายใจของนักกีฬาน้อยลงและยังทำให้นักกีฬาว่ายน้ำได้เร็วขึ้นอีกด้วย ขนาดปอดของคนทั่วไปอยู่ที่ประมาณสามพันซีซีถึงสี่พันซีซีและขนาดปอดของนักว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมหลายๆ คนจะมีขนาดถึงเจ็ดพันซีซี


ในมุมมองเหล่านี้ ทำให้คนผิวขาวดีกว่าคนผิวเหลืองและคนผิวดำ นี่คือความจริง ทุกคนรู้ แม้แต่ต่อหน้าสื่อก็มีการเน้นย้ำในเรื่องนี้และยังปกป้องคนผิวเหลืองอย่างฉินสือโอวอีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้มีกลิ่นอายของการยั่วยุเกิดขึ้น


นอกจากคนที่พูดคำนี้จะเป็นคนสมองกลวง แต่ฉินสือโอวกลับรู้สึกว่าแรนส์ไม่ใช่คนประเภทนั้น ดังนั้นยิ่งทำให้เขาโกรธขึ้นมาเล็กน้อย


เขามองไปที่แรนส์อย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “ขอบคุณที่คุณเตือนผม แต่นี่ไม่ใช่การแข่งขันชิงแชมป์โลก นี่เป็นแค่การแข่งขันมือสมัครเล่นเท่านั้น ดังนั้นผมจึงคิดว่าตัวเองก็มีโอกาสที่จะได้เป็นแชมป์”


แรนส์แบะปากหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่หรอก คนจีน ต่อให้เป็นการแข่งขันมือสมัครเล่น คุณก็ไม่สามารถเป็นแชมป์ได้หรอก แน่นอนว่าผมพูดขนาดนี้แล้วมันอาจจะทำร้ายจิตใจคุณไปบ้าง แต่ขอให้คุณเชื่อ ผมไม่ได้มีความหมายอื่น ผมพูดออกมาตรงๆ”


ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวแล้ว สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือสีหน้าท่าทางแบบนี้ หลังจากแฉจุดด้อยของคนอื่นแล้วยังพูดว่าตัวเองเป็นคนพูดตรงๆ อีก เหมือนกับเป็นความผิดของอีกฝ่าย คนแบบนี้เป็นพวกหน้าไม่อายจริงๆ


ถ้าอยู่ในประเทศจีน บางทีฉินสือโอวอาจจะทนได้สักพัก จากนั้นจะใช้ความจริงตอกหน้ากลับในภายหลัง แต่ในแคนาดาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ เพราะมันคล้ายกับว่าเป็นความถ่อมตน ชาวแคนาดาไม่สามารถเข้าถึงลัทธิขงจื่อของจีนได้ ความนอบน้อมถ่อมตัวและการอดทนอดกลั้น สำหรับฉินสือโอวแล้วมันก็คือความขี้ขลาด


ดังนั้น ฉินสือโอวจึงพูดออกไปตรงๆ ว่า “สมองของคุณมีปัญหาหรือเปล่า? ผมแนะนำให้คุณไปพบจิตแพทย์หรือว่าจะไปลงทะเบียนรับบัตรคิวที่โรงพยาบาลจิตเวชก็ได้นะ โอ้ ขอโทษที ผมไม่เพียงแต่เป็นคนพูดตรงๆ นะ ผมยังเป็นคนมีคุณธรรมอีกด้วย ผมล่ะอดห่วงไม่ได้จริงๆ เมื่อเห็นพวกคนป่วยแบบนี้”


คำพูดของฉินสือโอวทำให้แรนส์โมโหเป็นอย่างมาก เขาขมวดคิ้วแล้วตะโกนออกมา ซึ่งนักข่าวที่อยู่รอบๆ มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี จึงไม่ได้สนใจเหตุการณ์ข้างๆ แต่กลับไปข้างหน้าพวกเขาเพื่อแยกทั้งสองคนออกจากกัน


หลังจากนักข่าวแยกพวกเขาออกจากกัน แรนส์ก็โบกไม้โบกมือทำท่าทางยั่วยุใส่ฉินสือโอว แล้วตะโกนว่า “คนจีน ไว้เจอกันตอนลงน้ำเถอะ แต่หวังว่าคุณจะรับสิบห้ากิโลเมตรนี้ไหวนะ!”


ฉินสือโอวไม่รู้ว่าสมองของแรนส์มีปัญหาอะไร หลังจากถูกนักข่าวลากออกไป เขาก็อัดอั้นความโกรธไว้ในใจแล้วไปหาวินนี่ จากนั้นจึงมองไปที่เถียนกวาอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นมาทันที


เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่ถูกห่อเหมือนกับบ๊ะจ่าง มีเพียงจมูกกับตาดวงเล็กๆ โผล่ออกมา ฉินสือโอวเข้าไปใกล้ๆ เด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังตกอยู่ในความงุนงงก็รีบอ้าปากกว้างร้องออกมาเบาๆ ทันที ‘อาอา’


เมื่อมองเห็นเด็กตัวเล็กๆ ที่อยู่รอบๆ กำลังส่งเสียงร้องไห้ไม่หยุด จึงมองไปที่ลูกสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูของตัวเอง ฉินสือโอวก็มีความสุขขึ้นมาทันที เรื่องไร้สาระของแรนส์ก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่สนใจอีกแล้ว


เขารับลูกสาวออกมาจากอ้อมแขนของวินนี่ เขาหยิกแก้มอ้วนๆ ของเด็กหญิงตัวเล็ก แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “เถียนกวาของฉันนี่เป็นเด็กดีจริงๆ มาหอมหน่อยสิ ตอหนวดเคราจึงไปโดนหน้าเธอ ต้องเป็นคนดีนะ รอจนกว่าพ่อจะเอารางวัลมาให้หนูนะ! “


ฉินสือโอวประพฤติตัวไม่ดีจริงๆ ผิวของเด็กหญิงตัวเล็กที่อ่อนนุ่มราวกับเยลลี่ถูกตอหนวดเคราที่หยาบกระด้างของเขา เธอจึงก็ร้องไห้ออกมาทันที


วินนี่แย่งลูกสาวออกมาด้วยความโมโหและรีบปลอบเธอก่อน เด็กหญิงตัวเล็กเป็นเด็กฉลาด แค่แม่ปลอบก็ไม่ร้องไห้แล้ว ขณะที่ดวงตาอันว่างเปล่ากำลังกะพริบ ปากเล็กๆ ก็พลางร้องอาอาออกมาด้วย


หลังจากจูบลงหน้าผากของลูกสาว มือข้างหนึ่งของวินนี่ก็อุ้มเธอไว้และอีกข้างหนึ่งก็ช่วยฉินสือโอวจัดทรงผม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “ต่อไปคุณต้องทำตัวสบายๆ อย่าเครียดนะ นี่ไม่ใช่การฝึกซ้อมเหมือนในฟาร์มปลาของเรา รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจก็อย่าฝืน เข้าใจไหม?”


ฉินสือโอวจูบลงบนริมฝีปากของเธออย่างลึกซึ้งและยิ้มพร้อมพูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะคุณภรรยา เพราะสามีของคุณรู้ความสามารถของตัวเองเป็นอย่างดีแน่นอน!”


วินนี่พยักหน้าอย่างสบายใจ จึงให้เขาพาหู่จือและเป้าจือไปเข้าร่วมการออกกำลังกายอุ่นเครื่อง


หนึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจะต้องยืนอยู่บนชายหาด ซึ่งมีเรือคายัคในทะเลอยู่จำนวนหนึ่งและการแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว


ผู้จัดงานการแข่งขันการกุศลเตรียมความพร้อมมาอย่างเต็มที่ พวกเขายังเช่าสะพานลอยน้ำมาตั้งไว้ในน้ำ เหล่าผู้เข้าแข่งขันจะรวมตัวกันจากชายหาดถึงสะพานลอยน้ำ จากนั้นก็จะกระโดดลงน้ำเพื่อออกตัวจากจุดสตาร์ท


ตอนที่ฉินสือโอวอยู่บนสะพานลอยน้ำ ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่รอบๆ ต่างก็มีความรู้สึก ‘โชคไม่ดี’ ด้วยเหตุนี้หู่จือและเป้าจือจึงต้องยึดบั้นท้าย พวกมันจึงรู้สึกว่าความบริสุทธิ์ของตัวเองถูกคุกคาม


นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันการกุศลที่มีคนพาสัตว์เลี้ยงเข้าร่วมการแข่งขันด้วย…


เมื่อเห็นหู่จือและเป้าจือกำลังก้าวเท้าสั้นๆ เดินตามฉินสือโอวไปอย่างรวดเร็วบนสะพานลอยน้ำ ก็มีคนตะโกนขึ้นอย่างกระวนกระวายใจ “โอ้ พระเจ้า! กรรมการตัดสิน! กรรมการตัดสิน! ที่นี่ทำไมถึงยังมีสุนัขล่ะ?”


กรรมการตัดสินสองคนรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วพูดกับฉินสือโอวอย่างสุภาพว่า “คุณ นี่คือสุนัขของคุณใช่ไหม? ให้พวกมันลงไปก่อนได้ไหม?”


ฉินสือโอวถามอย่างไม่พอใจว่า “กติกาการแข่งขันไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าร่วมด้วยเหรอ?”


เหล่ากรรมการตัดสินมองหน้ากันอย่างลำบากใจและส่ายหัวอย่างจนปัญญา


แรนส์ที่กำลังมองดูอย่างเงียบๆ อยู่ข้างๆ ก็ผลักคนที่ขวางเขาอยู่ข้างหน้าออกและพูดว่า “คนจีนฉิน คุณคิดว่าสถานที่นี้คืออะไร? คือสวนสาธารณะที่เอาไว้จูงสุนัขเดินเล่นเหรอ? ถ้าคุณต้องการเข้าร่วมการแข่งขัน งั้นก็จริงจังหน่อยสิ ให้สุนัขของคุณลงไปก่อน เข้าใจไหม? หรือพวกคุณจะออกไปด้วยกันเลยก็ได้นะ ถึงอย่างไรคุณก็มาร่วมให้ครบจำนวนคนเฉยๆ”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)