เทพปีศาจหวนคืน 1001-1003
บทที่ 1001 ยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหล
แปลโดย iPAT
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะหรือมนุษย์ ทุกคนต่างพุ่งความสนใจไปยังสถานที่เดียวกัน
นั่นก็คือภูเขาอี้เทียน
ภายใต้การเพิ่มเชื้อไฟของผู้อมตะ ผู้ใช้วิญาณทั้งฝ่ายธรรมะและปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนเดินทางมารวมตัวกันที่นี่
การต่อสู้รอบที่เจ็ดปรากฏผลลัพธ์เรียบร้อยแล้ว
ฝ่ายปีศาจวางแผนตัดขาดเส้นทางขนส่งอาหารของฝ่ายธรรมะ
ในช่วงเวลาวิกฤต ผู้นำตระกูลเฉิง เฉิงเยี่ยนเฟย มาถึงพร้อมกับกองกำลังของเขาและใช้วิญญาณกล่องอาหารหล่อเลี้ยงกองกำลังฝ่ายธรรมะ นี่ทำให้แผนการของฝ่ายปีศาจถูกทำลาย
หลังจากนั้นกองกำลังขนาดใหญ่ของภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นตระกูลอี้ ตระกูลลั่ว ตระกูลเหยา และตระกูลเซี่ยก็มาถึงในที่สุด
ในสนามรบ ผู้ใช้วิญญาณระดับสามเป็นแนวหน้าที่ใช้แล้วทิ้ง ผู้ใช้วิญญาณระดับสี่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ขณะที่ผู้ใช้วิญญาณระดับห้าเป็นกำลังสำคัญของแต่ละฝ่าย
…..
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตและความตาย
อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจจิตวิญญาณสูญสลายไปอย่างสมบูรณ์
รังไหมแสงสีรุ้งค่อยๆแตกออก
เมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกของมันก็ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าของผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อทั้งเหนื่อยล้าและซีดขาวแต่ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความสุข
ขณะที่เขาเฝ้ามองด้วยความคาดหวัง รังไหมแสงก็แตกออก เด็กหนุ่มผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า
เขาลอยอยู่กลางอากาศด้วยดวงตาที่ปิดสนิท
ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อเดินไปข้างหน้าและใช้มือสัมผัสร่างกายของเด็กหนุ่มผู้นี้
เขาแทบไม่สามารถระงับความรู้สึกตื่นเต้นภายในจิตใจ
เขาพึมพำ “สำเร็จ! ข้าทำสำเร็จ! ข้าจำลองวิธีการของมนุษย์คนแรกและใช้อาณาจักรแห่งความฝันเพื่อสร้างร่างสุดยอดกายาที่สมบูรณ์แบบ!”
“นี่คือช่วงเวลาที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ชายชราม่านเยี่ยนซื่อหัวเราะเสียงดัง “เจ้าเกิดมาจากอาณาจักรแห่งความฝันและความว่างเปล่า เช่นนั้นข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่า กายาแห่งความฝัน!”
หลังกล่าวจบคำ ม่านเยี่ยนซื่อจึงส่งดวงวิญญาณดวงหนึ่งออกไป
ดวงวิญญาณสีดำพุ่งเข้าผสานกับกายาแห่งความฝัน
ม่านเยี่ยนซื่อรออยู่ชั่วครู่แต่ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงทำให้คิ้วของเขาเริ่มขมวดแน่น
“เกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดเขาไม่ตื่น? มันไม่ควรเป็นเช่นนี้?”
เขาตรวจสอบก่อนจะถอนหายใจ “ดูเหมือนกายาแห่งความฝันยังมีข้อบกพร่อง ร่างนี้เต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความฝัน ดวงวิญญาณที่เข้าไปจะถูกบังคับให้หลับไหล”
“ข้าควรทำเช่นไร?” ม่านเยี่ยนซื่อเดินไปรอบๆด้วยความกังวล “อายุขัยของกายาแห่งความฝันเริ่มลดลงแล้ว เรามีเวลาจำกัด ข้าไม่มีเวลาตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วข้าควรทำอย่างไร?”
แต่หลังจากนั้นไม่นานกายาแห่งความฝันกลับค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นในที่สุด
เขามองม่านเยี่ยนซื่อและกวาดตามองไปรอบๆด้วยความไร้เดียงสา
ม่านเยี่ยนซื่อรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาพยายามทุกวิถีทาง สุดท้ายก็สามารถปลุกดวงวิญญาณที่อยู่ในร่างกายาแห่งความฝันให้ตื่นขึ้น อย่างไรก็ตามดูเหมือนเขาจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมด
‘แต่มันไม่สำคัญ เมื่อกายาแห่งความฝันบรรลุระดับเก้า เขาจะเป็นไพ่ตายของพวกเรา ตราบเท่าที่แผนการของพวกเราประสบความสำเร็จ แม้กายาแห่งความฝันจะมีข้อบกพร่องบ้างแล้วจะเป็นอย่างไร?’
เมื่อคิดได้เช่นนี้ม่านเยี่ยนซื่อจึงเผยรอยยิ้มมีความสุข “ดี ดี ดี กายาแห่งความฝันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันของข้า วิญญาณอมตะของโป้ชิงถูกขโมย ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาลดลง หลังจากนี้เจ้าจะมาแทนที่เขาและกลายเป็นเสาหลักของพวกเรา”
“ท่านคือผู้ใดและข้าคือผู้ใด?” อิงอู๋เซี่ยถามด้วยความสงสัย
“ข้าก็คือเจ้าและเจ้าก็คือข้า ข้าชื่อม่านเยี่ยนซื่อ ส่วนเจ้า…ข้าจะเรียกเจ้าว่า อิงอู๋เซี่ย” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อหัวเราะเบาๆ
เขาโบกมือและส่งข้อมูลจำนวนมากเข้าสู่จิตใจของอิงอู๋เซี่ย
ม่านเยี่ยนซื่อกล่าวต่อ “จำไว้ เจ้ามีอายุขัยเพียงสิบแปดชั่วโมง ทุกสองชั่วโมงการบ่มเพาะของเจ้าจะเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ เวลามีจำกัด ข้าสามารถส่งมอบท่าไม้ตายให้เจ้าเท่านั้น แม้มันจะไม่มีพลังทำลายล้าง แต่มันก็เป็นการโจมตีบนเส้นทางแห่งความฝันบนจุดสูงสุดของห้าภูมิภาคในยุคนี้ กระทั่งวังสวรรค์ก็ยังถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เรียนรู้มันอย่างถี่ถ้วน เมื่อเจ้ากลายเป็นผู้อมตะ ข้าจะมอบชุดวิญญาณที่เหมาะสมให้กับเจ้า”
…..
ภาคใต้ ภูเขาอี้เทียน
ร่างกายของฟางหยวนที่กำลังพักผ่อนอยู่บนเตียงสั่นสะท้านขณะที่เขาเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างกะทันหัน
ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความสุขเล็กน้อยก่อนจะกลับไปไร้อารมณ์เช่นเดิม
รอบๆตัวเขามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากนอนอยู่ บางคนกำลังพูดคุย บางคนกำลังรักษา บางคนกำลังเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ
อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
หลังการต่อสู้ครั้งที่เจ็ดกับฝ่ายธรรมะ หอผู้ป่วยของหมู่บ้านอี้เทียนเต็มไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังพักฟื้นและกู้คืนพลังการต่อสู้
บางคนหายป่วยไปแล้วแต่บางคนเสียชีวิตลงที่นี่
มนุษย์มีความสุขกับการมีชีวิตและเกลียดชังความตาย ดังนั้นหอผู้ป่วยจึงเป็นสถานที่ที่พวกเขาไม่ต้องการมาเยือน
แต่ฟางหยวนไม่ได้รังเกียจมัน
เขาแสร้งได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยสามารถหลอกผู้อมตะระดับแปดโดยไม่ต้องกล่าวถึงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนภูเขาอี้เทียน
ฟางหยวนพบว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับการปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
มีเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่เขาสามารถพักผ่อนได้อย่างสงบสุขและปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้อย่างไม่หยุดยั้ง
ในที่สุดกลยุทธ์ของฟางหยวนก็เริ่มแสดงผลลัพธ์
‘หลังจากใช้เวลานานในที่สุดข้าก็มาถึงขั้นตอนนี้ ข้าสามารถกำจัดผู้อมตะคนอื่นๆและยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะ!’
ฟางหยวนสูดหายใจลึกและลงมือทำทันที
ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ เจตจำนงของฟางหยวนราวกับพายุใหญ่ที่กลืนกินเจตจำนงของคนอื่นๆเข้าไป
เจตจำนงของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ไม่ได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าและไม่สามารถตอบสนองก่อนที่ฟางหยวนจะกวาดล้างพวกมันออกไปจนหมดสิ้น
ความปั่นป่วนปะทุขึ้นทันที
กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทั้งโกรธและตกใจ บางคนกรีดร้องขณะที่บางคนตกตะลึงและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
พวกเขาสื่อสารกันและตระหนักว่าบางคนที่ไม่ได้เข้าร่วมในการแข่งขันอย่างเป็นทางการลอบฉกชิงคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลไปจากพวกเขา
เมื่อการทำงานหนักของพวกเขากลายเป็นไร้ประโยชน์ มันจึงช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะโกรธ
“ผู้ใดที่กล้าล้อเล่นกับพวกเรา!?”
“ตามหาและฆ่าเขา!”
“ไม่เพียงข้าจะฆ่าเขาแต่ข้าจะถลกผิวหนังฉีกเส้นเอ็นและดึงดวงวิญญาณของเขาออกมาทรมานไปอีกพันปี!”
กลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งเข้าปิดล้อมภูเขาอี้เทียนเอาไว้ทุกด้าน
พวกเขาไม่ปกปิดกลิ่นอายของผู้อมตะอีกต่อไป
นั่นทำให้ผู้ใช้วิญญาณมนุษย์ทั้งฝ่ายธรรมะและปีศาจตกใจมาก
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ผู้อมตะ พวกเขาคือผู้อมตะงั้นหรือ?”
“กลิ่นอายเช่นนี้ พวกเขาต้องเป็นผู้อมตะในตำนานอย่างแน่นอน ผู้ใดจะคิดว่าในชีวิตนี้ข้าจะมีโอกาสได้พบเห็นผู้อมตะ!”
“มีผู้อมตะจำนวนมาก นี่เป็นอุบายของฝ่ายธรรมะ(ปีศาจ)หรือไม่?”
ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในความโกลาหล
‘ไร้ประโยชน์ ที่นี่คือเขตต้องห้ามของผู้อมตะ พวกเจ้าไม่มีวิธีปิดผนึกมิติช่องว่าง แล้วพวกเจ้าจะเข้ามาได้อย่างไร?’ ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ภายใน
แต่ภายนอกเขาแสดงออกด้วยความตกใจไม่ต่างจากคนอื่นๆ
นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญแน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ประมาท
เขตต้องห้ามป้องกันไม่ให้ผู้อมตะเข้ามา แต่มันส่งผลกระทบต่อมิติช่องว่างเท่านั้นไม่ใช่กับวิญญาณอมตะ นั่นหมายความว่าผู้อมตะสามารถโจมตีภูเขาอี้เทียนได้จากระยะไกล
“เจ้าเป็นผู้ใด? ออกมา!”
“เจ้ากล้าขโมยสมบัติของพวกเราแต่กลับไม่กล้ายอมรับงั้นหรือ?”
กลุ่มผู้อมตะกรีดร้องด้วยความกังวล เสียงของพวกเขาราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นหวั่นไหว
กระทั่งภูเขาอี้เทียนยังเกิดการสั่นสะเทือนภายใต้คลื่นเสียงเหล่านี้ ใบหน้าของผู้ใช้วิญญาณรวมถึงผู้ใช้วิญญาณระดับห้าทุกคนกลายเป็นซีดเผือด
แต่ฟางหยวนยังปกปิดตัวตนและไม่เปิดเผยร่องรอยใดๆ
หลังจากกำจัดเจตจำนงของผู้อมตะภาคใต้ เขาก็เริ่มเข้ายึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล
อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร
แต่ฟางหยวนไม่กังวลว่าผู้อมตะภาคใต้จะโจมตีภูเขาอี้เทียนโดยปราศจากการแจ้งเตือน
สำหรับผู้อมตะฝ่ายธรรมะ พวกเขาต้องปกป้องชื่อเสียงของตนและไม่สามารถสังหารหมู่ผู้ใช้วิญญาณบนภูเขาอี้เทียน ด้านปีศาจอมตะ พวกเขาทิ้งวิญญาณอมตะบางดวงไว้กับตัวหมากเบี้ยบนภูเขาอี้เทียน วิญญาณอมตะเหล่านั้นบอบบางไม่ต่างจากวิญญาณกาลเวลาของฟางหยวน หากพวกเขาโจมตีอย่างไม่ระมัดระวัง วิญญาณอมะตเหล่านั้นอาจถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย
ในส่วนของผู้บ่มเพาะสันโดษเช่นผู้อมตะเฒ่าม่านอวี๋เซี่ย ศิษย์ของเขาอยู่บนภูเขาอี้เทียน แล้วเขาจะโจมตีได้อย่างไร
วิญญาณจำนวนมากของคฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกยึดครองโดยฟางหยวน สุดท้ายรูปลักษณ์ที่แท้จริงของสนามรบแห่งความโกลาหลก็ถูกเปิดเผยต่อเขา
‘ดังนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ก็เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มันใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาปิดผนึกการโจมตีของศัตรูก่อนจะสะท้อนพวกมันกลับไป! ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ช่างเป็นความคิดที่น่ายกย่องนัก!’ ฟางหยวนชื่นชม
บทที่ 1002 เข้าสู่สถานการณ์อันตรายอีกครั้ง
แปลโดย iPAT
โดยไม่สามารถอธิบายเหตุผล หลังจากหลายปี คฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลกับผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดสามารถรักษาสมดุลซึ่งกันและกัน
ตอนนี้ฟางหยวนได้ผลักดันเจตจำนงของผู้อมตะภาคใต้ออกไปแล้ว
ตั้งแต่กำเนิดใหม่ในที่สุดแผนการของเขาก็กำลังจะประสบความสำเร็จ
ฟางหยวนเต็มไปด้วยความสุข
แต่ในขณะเดียวกันเขายังรู้สึกกังวล
‘เร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก!’ เขากระตุ้นตนเอง
แม้เขาจะสามารถปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะส่วนใหญ่ แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่เขาจะสามารถยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้อย่างสมบูรณ์
ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด หากผู้อมตะภาคใต้ร่วมมือกัน เขาอาจเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิต
ความโกรธของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เป็นสิ่งที่สามารถทำความเข้าใจ
หลังจากทุ่มเทความพยายามมาหลายเดือน สุดท้ายคนนอกกลับฉกชิงผลประโยชน์ไปจากพวกเขา หากฟางหยวนทำตามกฎของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ พวกเขาอาจสามารถยอมรับ แต่การกระทำของเขาคือการขโมยอย่างไร้ยางอายที่สุด
แล้วการทำงานหนักทั้งหมดของพวกเขาจะมีความหมายใด?
แน่นอนว่ามันกลายเป็นความว่างเปล่า
แม้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้จะไม่โจมตีแต่พวกเขาก็ใช้วิธีการตรวจสอบทั้งหมด
ฟางหยวนสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานมากมายที่พุ่งผ่านร่างกายของเขาไป
นี่ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย
แม้เขาจะใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แต่มันก็เป็นฉบับดัดแปลง ฟางหยวนมั่นใจว่าสามารถหลอกผู้อมตะระดับหกและเจ็ด แต่สำหรับผู้อมตะระดับแปด เขายังไม่มั่นใจมากนัก
เมื่อเวลาผ่านไป จิตใจของฟางหยวนเต็มไปด้วยกลุ่มความคิดมากมาย
ฟางหยวนเข้ายึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลอย่างช้าๆและใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อเรียนรู้วิญญาณอมตะที่อยู่ภายใน
ในช่วงเวลาสำคัญ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขากลายเป็นตัวช่วยชั้นยอด ฟางหยวนสามารถสรุปหลายอย่างเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้
ความเข้าใจของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
‘สำเร็จ!’ ฟางหยวนอุทานอยู่ในใจ
สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จในการยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหล
คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้กลายเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์
“บึม!”
ประตูห้องพยาบาลถูกทำลายอย่างกะทันหัน
เซี่ยวซาน ลู่ซวนฟง และผู้ใช้วิญญาณระดับห้าอีกคนพุ่งเข้ามาด้านใน
“ฆ่าพวกเขาทั้งหมด!” เซียวซานชี้นิ้วไปที่เตียงผู้ป่วยด้วยเจตนาสังหาร
ปรากฏว่าไม่เพียงผู้อมตะภาคใต้ แต่ผู้ใช้วิญญาณบนภูเขาอี้เทียนก็กำลังค้นหาผู้ก่อการร้ายและเริ่มเข่นฆ่าสมาชิกของแต่ละฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง
ทุกคนที่น่าสงสัยจะถูกสังหารอย่างไร้ปรานี
ผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยความวิตก แม้ตัวตนของพวกเขาจะถูกเปิดเผย พวกเขาก็ไม่สนใจ
‘แม้พวกเขาจะไม่สามารถทำลายท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แต่พวกเขาก็ยังสงสัยข้า’ ฟางหยวนพึมพำอยู่ในใจ
เซียวซานชี้นิ้วไปที่ผู้ต้องสงสัยสามคน หนึ่งในนั้นคือฟางหยวน
ผู้ใช้วิญญาณปีศาจระดับห้า ซันเพิ่งหู แสดงออกด้วยความโหดเหี้ยม แต่ฟางหยวนยังสงบนิ่ง
แน่นอนว่าภายนอกฟางหยวนแสร้งตกใจและงุนงง เขากรีดร้องด้วยความโกรธ “พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด? ข้าไม่ใช่สายลับของฝ่ายธรรมะ!”
“จะใช่เจ้าหรือไม่ผู้ใดจะสน!” ซันเพิ่งหูกระโดดถียยอดอกของฟางหยวน
ฟางหยวนพุ่งกลับหลังไปด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส
เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและพยายามโต้ตอบ
แต่ซันเพิ่งหูชกเขาลอยกลับหลังอีกครั้ง
“บึม”
ศพของฟางหยวนกระแทกกำแพงก่อนจะร่วงลงบนพื้น เขาเสียชีวิตด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“ไปที่ก่อสร้าง!” หลังจัดการที่นี่เรียบร้อยแล้ว เซียวซานโบกมือนำกลุ่มคนจากไป
สมาชิกที่เหลือทั้งหมดต่างตื่นตระหนก นอกจากนี้ยังมีศพของผู้เคราะห์ร้ายอีกสามคนนอนอยู่
แน่นอนว่าฟางหยวนยังไม่ตาย
มันเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น
ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยสามารถปลอมตัวเป็นมนุษย์คนอื่น เป็นเรื่องง่ายนมากที่เขาจะแสดงเป็นคนตาย
ตอนนี้ฟางหยวนยังต้องการเวลาอีกเล็กน้อย
นอกจากยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล เขายังต้องจัดการอีกเรื่องหนึ่ง
นั่นก็คือการปราบปรามผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด
ยังมีพลังงานอมตะเหลืออยู่ในสนามรบแห่งความโกลาหลเล็กน้อย ฟางหยวนใช้พวกมันเพื่อบังคับให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะโจมตีผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด
ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดเปิดเปลือกตาขึ้นและเริ่มต่อต้าน
ฟางหยวนโอดครวญอยู่ภายใน ‘มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ’
เขาไม่แปลกใจ
ในชีวิตก่อนหน้าผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้แสดงพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
แต่มันยิ่งทำให้ฟางหยวนต้องการยึดครองร่างผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้มากขึ้น
แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะโจมตี เมฆบนท้องฟ้าเหนือภูเขาอี้เทียนกลับเกิดความปั่นป่วนขึ้นอย่างกะทันหัน
ผู้อมตะภาคใต้ตะโกนด้วยความไม่แน่ใจ “เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ดูเหมือนมันจะเป็นภัยพิบัติสวรรค์หรือภัยพิบัติพิภพ!”
“เหตุใดภัยพิบัติสวรรค์พิภพจึงปรากฏขึ้นที่นี่?”
“บางคนกำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติงั้นหรือ?”
“ผู้ใดจะสนภัยพิบัติ ตอนนี้สิ่งที่ข้ากังวลคือคนที่ปล้นชิงคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเราเท่านั้น!”
ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ ‘ยังไม่ถึงเวลา เหตุใดมันจึงเกิดขึ้นเร็วนัก? โอ้ ไม่ ภัยพิบัติเกิดขึ้นหมายความว่าสมาชิกนิกายเงาอยู่ที่นี่แล้ว!’
ฟางหยวนรู้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น นี่ทำให้เขาลังเล
‘ภัยพิบัติที่มาเร็วกว่าเดิมเกิดจากผลกระทบของการกำเนิดใหม่ของข้าหรือไม่? นิกายเงาเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ ข้าควรถอยหรือไม่?’
เมื่อถึงจุดนี้ มันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เขาจะยอมแพ้การจับกุมผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด
ท้ายที่สุดแล้วผีดิบอมตะผู้นี้ก็ไม่ได้ครอบครองสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงเพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้ ยังมีไห่ลั่วหลันอีกคน
แม้ฟางหยวนกับไห่ลั่วหลันจะมีข้อตกลงพันธมิตร แต่เมื่อสัญญาหมดอายุหรือฟางหยวนสามารถลบข้อตกลง เขาจะสามารถวางแผนยึดครองร่างสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงของนาง
ในอดีตฟางหยวนมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะจัดการไห่ลั่วหลันเพราะนางได้รับการสนับสนุนจากนางมารผลาญสวรรค์
แต่ตอนนี้ฟางหยวนมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล เขาสามารถใช้มันกำหราบหญิงทั้งสาม
ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ฟางหยวนมีความมั่นใจมากพอ
‘อย่างไรก็ตามมันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่หากข้ายอมแพ้ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงในวันนี้ แผนการต่อต้านไห่ลั่วหลันเป็นเรื่องของอนาคต ผู้ใดจะสามารถฝากความหวังไว้กับอนาคตที่ไม่แน่นอน ข้าควรทำอย่างไร? ข้อตกลงพันธมิตรพึ่งถูกสร้างขึ้น ยังมีเวลาเหลืออีกมาก ในช่วงเวลาที่ยาวนานอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น’
ในขณะที่ฟางหยวนกำลังลังเล บนท้องฟ้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อนำกลุ่มผีดิบอมตะสุดยอดกายาสร้างค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอย่างรวดเร็ว
ผู้อมตะภาคใต้ที่ถูกล้อมกรอบเอาไว้ทั้งโกรธและตกใจ
ผู้อมตะบางคนตะโกน “พวกเจ้าคือผู้ใด? พวกเจ้าอยู่เบื้องหลังการขโมยคฤหาสน์วิญญาณอมตะครั้งนี้งั้นหรือ?”
ผู้อมตะระดับแปดตะโกนต่อ “คนขี้ขลาด หากมีความกล้าก็ออกมา ข้าอยากรู้นักว่าผู้ใดกล้าต่อต้านข้าในเขตภาคใต้แห่งนี้?”
ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อมองกลุ่มผู้อมตะภาคใต้และเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน เขาหันหลังกลับและมองไปที่อิงอู๋เซี่ย “ข้าบอกทุกสิ่งที่เจ้าควรรู้ไปหมดแล้ว เจ้าจงจดจำพวกมันเอาไว้”
อิงอู๋เซี่ยกระพริบตาอย่างไร้เดียงสาก่อนพยักหน้า “ท่านสามารถไปตาย ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้า”
เขาพึ่งถือกำเกิดขึ้นมาเพียงสิบสองชั่วโมง แม้เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับหก แต่เขายังไม่เข้าใจความหมายของชีวิตและความตาย
ชายชราม่านเยี่ยนซื่อส่ายศีรษะและไม่รู้ว่าควรกล่าวสิ่งใด
เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจสร้างผู้ช่วยเช่นนี้
‘น่าเสียดาย ความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ของข้ายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับมนุษย์คนแรก สุดยอดกายาทั้งสิบที่มนุษย์คนแรกสร้างขึ้นสามารถมีชีวิตที่ยืนยาว แต่กายาแห่งความฝันของข้ามีเวลาเพียงสิบแปดชั่วโมง นอกจากนั้นดวงวิญญาณที่สถิตอยู่ภายในยังสูญเสียความทรงจำและถูกบังคับให้เข้าสู่การจำศีลด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความฝัน’
มันไร้ประโยชน์ที่จะถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมหาศาลให้อิงอู๋เซี่ย ยิ่งเขาได้รับข้อมูลมากเท่าใด เขาก็จะลืมมั้นเร็วมากเท่านั้น
เพียงเมื่ออิงอู๋เซี่ยพยายามที่จะจดจำตนเอง มันจึงจะมีประสิทธิภาพอยู่บ้าง
ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อปกปิดความเสียใจของตนก่อนกล่าว “ก่อนข้าจะจากไป ข้าจะอนุมานบางสิ่งให้เจ้า”
“หนึ่งใน…พวกเรา…ระวัง…ล้มเหลว…” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อกล่าวก่อนที่ร่างของเขาจะแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผง
นั่นรวมถึงผู้เสียสละตนเองอีกจำนวนมากจากนิกายเงา
ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจเพิ่มขึ้นถึงเก้าสิบส่วน
ผู้อมตะภาคใต้ที่ถูกกักขังเอาไว้รู้สึกตกใจและหวาดกลัว
เหนือศีรษะของพวกเขา ภัยพิบัติพันไข่มุกแสงเริ่มร่วงหล่นลงมา
ผู้อมตะภาคใต้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรับมือกับภัยพิบัติเหล่านี้เป็นอันดับแรก
บทที่ 1003 ฟางหยวนปะทะโป้ชิง
แปลโดย iPAT
‘นิกายเงามาเร็วกว่ากำหนดเช่นกัน…’ ฟางหยวนลอบถอนหายใจ
แม้เขาจะวางแผนมาอย่างรอบคอบ แต่ในการปฏิบัติจริงมันกลับเป็นเรื่องยาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาหมดสิ้นหนทาง
ในชีวิตก่อนหน้ากลุ่มผู้อมตะภาคใต้ต่อต้านภัยพิบัติมากมายก่อนที่นิกายเงาจะปรากฏตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามครั้งนี้สมาชิกนิกายเงากลับปรากฏตัวออกมาตั้งแต่แรก
เนื่องจากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกจัดตั้งไปแล้ว ฟางหยวนก็ไม่รีบร้อนที่จะล่าถอยอีกต่อไป
เหตุผล?
เพราะสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นแล้ว
เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า วิญญาณท่องแดนอมตะไม่สามารถใช้งานในกรณีนี้
แม้เขาจะมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล เขาก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา
ฟางหยวนเรียนรู้ท่าไม้ตายเขตแดนมามากมายโดยเฉพาะในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ที่ทะเลตะวันออก
แม้เขตแตนในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่จะยอดเยี่ยมแต่มันปราศจากคนควบคุม
กระทั่งฟางหยวนจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลและไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่อย่างน้อยเขาก็มีความเข้าใจบางอย่าง
หากเขาออกไปตอนนี้ ไม่เพียงเขาจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ นิกายเงาก็จะไม่ปล่อยเขาจากไปพร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลเช่นกัน
‘กำหราบผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะกวาดล้างสิ่งกีดขวาง’ ฟางหยวนคิด
การปรากฏตัวของนิกายเงาทำให้ฟางหยวนสามารถตัดสินใจ
เขารู้สึกผ่อนคลายลงและเริ่มจัดการผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด
สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนตกใจก็คือผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดยังมีความแข็งแกร่งเหลืออยู่เล็กน้อย
เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ฟางหยวนกระตุ้นใช้พลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างดุเดือด
‘ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้เป็นนักวางแผนที่ชาญฉลาด! ก่อนหน้านี้เขาพยายามปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างลับๆแต่เขาล้มเหลว ด้วยความเหนื่อยล้า เขาจึงเข้าสู่การจำศีลเพื่อสะสมความแข็งแกร่งโดยมีความหวังว่าเมื่อเขาตื่นขึ้นเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์’
ฟางหยวนคาดเดาและรู้สึกชื่นชมคู่ต่อสู้โดยไม่ได้ตั้งใจ
ผีดิบอมตะตนนี้บ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง แต่เขากลับมีความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา
ผู้ใดจะรู้ว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่
แต่ฟางหยวนรู้ว่ามันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทิ้งทางออกสายหนึ่งไว้ให้เขาในกรณีที่เลวร้ายที่สุด
บางทีผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้อาจตื่นและหลับมาหลายครั้งแล้ว
หากไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของฟางหยวน วันหนึ่งผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดจะสามารถปลดปล่อยตนเองได้อย่างแน่นอน
นอกจากนั้นเขายังจะได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลอีกด้วย
แต่น่าเสียดายที่แผนการของเขาถูกขัดขวางโดยฟางหยวน
ขณะที่ฟางหยวนกำลังจัดการผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด บนท้องฟ้าเหนือภูเขาอี้เทียนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ภัยพิบัติสวรรค์พิภพมากมายร่วงหล่นลงมาและสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่พยายามทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา แต่พวกเขาไม่สามารถ
เช่นเดียวกับครั้งก่อน พวกเขาคิดว่าอิงอู๋เซี่ยเป็นจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม เมื่อผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้พุ่งเข้าโจมตีอิงอู๋เซี่ย พวกเขาก็ถูกส่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและจบลงด้วยความพ่ายแพ้
ต่อมา พวกเขาหันไปโจมตีผีดิบอมตะสุดยอดกายาที่เป็นแกนกลางของค่ายกลวิญญาณแต่ยังถูกขัดขวางโดยผู้อมตะนิกายเงา
เมื่อเวลาผ่านไป ภายใต้พลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดก็อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง
ฟางหยวนมองเห็นความหวังมากขึ้น สำหรับผู้อมตะภาคใต้ เกือบทั้งหมดเสียชีวิตไปแล้ว
ผู้อมตะระดับแปดที่เหลืออยู่เพียงสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังหลบหนีภัยพิบัติสวรรค์พิภพรวมถึงผู้อมตะนิกายเงาอย่างน่าอนาถ
ไม่ใช่ว่าฟางหยวนไม่ต้องการช่วยเหลือผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้ แต่เขาไม่มีทางเลือก
เขายังไม่สามารถกำหราบผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาสนใจคนอื่น
อย่างไรก็ตามเขายังพยายามส่งข้อมูลเกี่ยวกับพลังของอิงอู๋เซี่ยให้กับผู้อมตะระดับแปดทั้งสอง
แต่เขตต้องห้ามของภูเขาอี้เทียนขยายตัวออกไปในวงกว้างและยังปิดกั้นการส่งข้อมูลของฟางหยวนอีกด้วย
ฟางหยวนเคยทดลองใช้วิธีอื่นๆแต่ยังล้มเหลว
หลังจากพยายามหลายครั้ง ฟางหยวนจึงตัดใจยอมแพ้และทุ่มเทความสนใจทั้งหมดกับผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดเท่านั้น
เป็นเพียงเวลานี้ที่หอคอยขนาดใหญ่ค่อยๆลอยลงมาจากท้องฟ้าอย่างเงียบงัน
หอคอยดวงตาสวรรค์!
“ท่านเจ้าวัง ผู้อมตะภาคใต้ตายเกือบหมดแล้ว เราควรลงมือเลยหรือไม่?” ไป่เฉินเทียนถาม
ด้วยความช่วยเหลือจากหอคอยดวงตาสวรรค์ เจ้าวังสามารถมองเห็นเหตุการณ์ด้านล่างได้อย่างชัดเจน
“ช่างทรงพลังนัก มันดูเหมือนค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณ แต่ในความเป็นจริงมันใช้พลังงานแห่งเต๋าจากร่างสุดยอดกายาเป็นแรงขับเคลื่อนท่าไม้ตายเขตแดน อย่างไรก็ตามพวกเขายังขาดสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง หากสามารถรวมพลังอำนาจของสุดยอดกายาทั้งสิบ พลังอำนาจของมันจะน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น” เจ้าวังกล่าว
“ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาพยายามยึดครองร่างผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดที่อยู่ใต้ภูเขา” เหลียนจิ่วเฉิงแสดงความคิดเห็น
เจ้าวังลูบเคราและกล่าวต่อ “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะครอบครองผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดเพราะก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องผ่านด่านคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ตอนนี้เราต้องรอก่อน กลุ่มของโป้ชิงยังไม่ปรากฏตัว”
“ในการเดินทางครั้งนี้ เรานำผู้อมตะสิบสามคนมาพร้อมกับหอคอยดวงตาสวรรค์ แต่เราข้ามกำแพงภูมิภาคและเดินทางผ่านสวรรค์สีขาวมาโดยไม่ได้หยุดพัก ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด”
“ศัตรูยังมีไพ่ตายซ่อนอยู่ ปล่อยพวกเขาอาละวาดไปก่อน แม้ผู้อมตะภาคใต้จะตาย มันก็ยังมีภัยพิบัติสวรรค์พิภพ ฮืม คนที่ควรตายแต่กลับไม่ยอมตาย พวกเขาต้องพบกับความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์! ภัยพิบัติจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ”
เจ้าวังไม่ได้รีบร้อน
เรื่องนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน
ครั้งก่อนพวกเขาโจมตีทันทีเมื่อค้นพบผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด
แต่ครั้งนี้พลังอำนาจของผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดถูกกำหราบโดยฟางหยวน เขาไม่แม้แต่จะสามารถขยับร่างกายและไม่ได้ปรากฏตัวออกมา ดังนั้นเจ้าวังสวรรค์จึงไม่รีบร้อนเคลื่อนไหว
แม้สมาชิกของวังสวรรค์ทั้งหมดจะเป็นผู้อมตะระดับแปดและมีเป้าหมายเดียวกัน แต่เจ้าวังก็ไม่ประมาท
‘วังสวรรค์ยังไม่เคลื่อนไหว?’ ห่างออกไป โป้ชิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน โป้ชิงไม่สามารถบุกโจมตีนิกายบัวสวรรค์และหันไปโจมตีนิกายเทพยุทธ์อมตะ นั่นทำให้การเตรียมตัวของนิกายเงากลายเป็นไร้ประโยชน์
แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป ผีดิบอมตะเทพเจ็ดดารากับซ่งซื่อซิงไม่ตายและร่วมมือกับหยูมู่ฉานกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายขนส่งนำพวกเขาไปยังนิกายบัวสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว
การโจมตีครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนการของนิกายเงา
โป้ชิงกับคนอื่นๆสามารถถ่วงเวลาก่อนจะล่าถอย
อย่างไรก็ตามเจ้าวังสวรรค์ไม่ใช่ตัวตนที่จะสามารถหลอกลวงได้โดยง่าย ความไม่สบายใจนำเขากลับวังสวรรค์และกระตุ้นใช้หอคอยดวงตาสวรรค์ นั่นทำให้เขาค้นพบสิ่งที่เกิดขึ้นบนภูเขาอี้เทียนและระดมผู้อมตะของวังสวรรค์เดินทางมาที่นี่โดยไม่หยุดพัก
“เมื่อพวกเขาไม่เคลื่อนไหว เช่นนั้นพวกเราก็จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” เสียงของซ่งซื่อซิงดังขึ้นผ่านวิญญาณสื่อสาร
โป้ชิงพยักหน้า “ข้าจะไปก่อน”
ในเวลาต่อมา แสงสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ใหญ่โตจะปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของทุกคน
“หือ?” เจ้าวังสวรรค์ประหลาดใจ คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ซ่อนอยู่ในค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา นั่นทำให้เขาไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของมัน
คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้พุ่งกระแทกภูเขาอี้เทียนอย่างแรง
การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นเย็นชา
‘คฤหาสน์วิญญาณอมตะเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์!’ เขากัดฟันแน่น เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์วิหคปรากฏขึ้นโดยไม่คาดคิด
ฟางหยวนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ปรากฏขึ้น
ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดกำลังจะถูกกำหราบอย่างสมบูรณ์ ฟางหยวนอยู่ห่างจากความสำเร็จเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาต้องหยุด!
เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์โจมตีภูเขาอี้เทียนโดยตรง ฟางหยวนต้องใช้สนามรบแห่งความโกลาหลต่อต้านมัน
หากไม่กระตุ้นการทำงานของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ มันจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังอำนาจ ขณะที่พลังงานอมตะคือตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของมัน
กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์ยังถูกดาบแสงของโป้ชิงตัดขาดขณะที่มันอยู่ในสภาวะไร้การควบคุม
‘สนามรบแห่งความโกลาหล ไป!’
ฟางหยวนเรียกมันและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาอย่างไม่ลังเล
ภูเขาอี้เทียนแตกสลายไปในพริบตาขณะที่สนามรบแห่งความโกลาหลพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับดาวหางสีแดง
ตอนนี้ฟางหยวนเข้าไปอยู่ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลและควบคุมมันอย่างเป็นทางการแล้ว
“เมืองขนนกศักดิ์สิทธ์…” ฟางหยวนพึมพำก่อนส่งพลังงานอมตะระดับเก้าออกไป
พวกมันก็คือพลังงานอมตะระดับเก้าของเทพอมตะตะวันเดือดที่ไม่สามารถดูแคลน!
หลังจากได้รับพลังงานอมตะระดับเก้า สนามรบที่เรืองแสงสีแดงกลับระเบิดแสงสว่างราวกับภูเขาไฟปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน
“อันใด!?” โป้ชิงที่อยู่ภายในเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ตกใจ
“บึม!” เสียงระเบิดครั้งใหญ่ดังขึ้น
เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ถูกส่งลอยกลับหลังโดยสนามรบแห่งความโกลาหล
เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นซากปรักหักพังขณะที่วิญญาณจำนวนมากบินกระจัดกระจายออกไปในอากาศ
ฟางหยวนเอาชนะโป้ชิงในครั้งเดียว!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น